รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 เรื่องที่นักลงทุนไทยควรรู้สำหรับวันนี้ ( 13 ส.ค.)

เผยแพร่ 13/08/2563 14:22
อัพเดท 13/08/2563 14:29
© Reuters.

โดย Detchana.K - เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการประกาศผลประกอบการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จนถึงเช้านี้ผ่านไปแล้วทั้งสิ้น 248 บริษัท คิดเป็น 66.5% ของ Market Cap ซึ่งแม้ภาพรวมจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่จนถึงตอนนี้ผลออกมาดีกว่าที่คาด โดยมีกำไรสุทธิรวม 9.84 หมื่นล้านบาท ลดลง 41% YoY และ เพิ่มขึ้น 28.7% QoQ ติดตามรายละเอียดพร้อมประเด็นสำคัญที่นักลงทุนไทยควรติดตาม

1.ประกาศกำไรไตรมาสสองออกมาแล้ว 248 บริษัท หรือ 66.5% ถึงตอนนี้นับว่าดีเกินคาด

บล.เอเชียพลัสให้ข้อมูลว่า การประกาศผลประกอบการงวด 2Q63 ของบริษัทจดทะเบียนใน ตลาดหุ้นไทย จนถึงเช้านี้มีประกาศออกมาแล้ว 248 บริษัทคิดเป็น 66.5 % Market Cap มีกำไรสุทธิรวม 9.84 หมื่นล้านบาท ลดลง 41% YoY และ เพิ่มขึ้น 28.7% QoQ นับเป็นผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามยังน่าจะเห็นการปรับลดประมาณการกําไรสุทธิและ EPS งวดปีลง โดยตัวเลขการปรับประมาณการแบบ Real Time ของฝ่ายวิจัยจนถึงปัจจุบันพบว่า EPS ปี 2563 ปรับลดลงจาก 64 บาท มาอยู่ที่ 60.65 บาท/หุ้น และคาดว่าจะยังเห็นการปรับลดลงได้อีกบางส่วน

ส่วนข่าวพัฒนการเชิงบวกเรื่องวัคซีน หนุนให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้น ขณะที่ทองคํา XAU/USD ถูกขายทํากําไรอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่องวัคซีน ยังต้องติดตามต่อเนื่อง เพราะหากพิจารณาในเชิงของเป้าหมายสุดท้ายคือการกระจายตัวของวัคซีนไปสู่ประชากรโลกอย่างกว้างขวาง ยังไม่น่าจะเร็วไปกว่ากลางปี ซึ่งเป็นสมมุติฐานเดิม พัฒนาการเชิงบวก เรื่อง Vaccine หนุนราคาหุ้น แต่ระยะเวลาไม่ได้สั้นลงจากเดิม

สำหรับระเด็น พัฒนาการ Vaccine ASPS ตังข้อสังเกตุว่าทุกๆครั้ง จะเป็นกระแสเชิง + หนุนตลาดหุ้นโลกในระยะสั้น และเชื่อว่ากระแสจะยังหนุนต่อไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามหากยึดตามสากลของโลก เชื่อว่า Timeline พัฒนา Vaccine ยังคงอยู่ในกรอบเดิมถึงจะผ่านหรือไม่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมทีมีการคาดกันก่อนหน้า คือเร็วสุดคือต้นปี 2564  ขั้นตอน Approve และกว่า Vaccine จะผลิตออกมาใช้จริงคือ 1Q63-2Q64 เป็นอย่างเร็ว(หากอ้างอิง มหาวิทยาลัย Oxford มีการทดลองฉีดแรก เดือน เม.ย. ปัจจุบันอยู่ในช่วงทดลอง เมื่อฉีดวัคซีนจะอยู่ในร่างกาย เกิน 6 เดือนหรือไม่? ครบ 6 เดือน คือ ต.ค. )

2. AOT รายงานผลประกอบการ 3Q63 (เม.ย. – มิ.ย. 63) ขาดทุน 2,934 ล้านบาท

บล. Asia Wealth เปิดเผยว่า บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการ 3Q63 ขาดทุน 2,934 ล้านบาท พลิกจาก 3Q62 และ 2Q63 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,883 ล้านบาท และ 3,648 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้รวมที่ลดลง 89%QoQ และลดลง 91%YoY ตามจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง จากผลของการจำกัดการ เข้าออกประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่ง ประเทศไทย ออกประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าประเทศชั่วคราว ตั้งแต่ เม.ย. 63

นอกจาก สถิติทางการบินที่ลดลง จะกระทบรายได้ที่เกี่ยวกับการบินแล้ว รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินยังลดลง จากรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่ลดลง 88.5%QoQ ตามจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง และผลของ มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการของ (BK:AOT) สถิติการบินเริ่มฟื้นตัว แต่การเติบโตยังถูกจำกัดจากมาตรการปิดน่านฟ้าชั่วคราว สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเริ่มดีขึ้น ทำให้ภาครัฐฯ เริ่มผ่อนคลายมาตรการ สถานที่ท่องเที่ยว กับมาเปิดดำเนินงาน รวมไปถึงระบบขนส่งทางบก และทางอากาศ รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นภาค การท่องเที่ยวของภาครัฐฯ อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของผลประกอบการยังถูกจำกัดจากการจำกัดการเดินทางการเข้าออกประเทศ ตามประกาศห้ามอากาศยานท าการบินเข้าประเทศชั่วคราว เพื่อ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเป็น รายได้หลักของ AOT รวมไปถึงรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่เติบโตตามจำนวนผู้โดยสาร ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร

ประมาณการผลประกอบการมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดลงได้อีก จากผลของมาตรการช่วยเหลือผลประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยที่ผ่านมา บริษัทมีการออกมาตรการช่วยเหลือมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2563 (9 ก.พ. และ 22 เม.ย.) รวมทั้ง ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. บริษัทมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ด้วยการเลื่อนชำระผลตอบแทน จากเดิมที่ให้ขยายเวลาการชำระของแต่ละงวดออกไป 6 เดือน (ตามกำหนดปกติ) เป็นขยายเวลาการชำระของแต่ละงวดออกไป 12 เดือน

ทำให้ AWS ปรับลดประมาณการผลประกอบการปี 2562/63 และปี 2563/64 รวมทั้งปรับลดราคาเป้าหมายในปี 2564 ลงเหลือ 72 บาท ระยะสั้นยังมีความเสี่ยง แต่ยังเหมาะสมกับการลงทุนในระยะยาว ความเสี่ยงในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ยังเป็นปัจจัยกดดันการฟื้นตัว ของธุรกิจที่เกี่ยวกับการบินและการท่องเที่ยว รวมไปถึงการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพิ่มเติม จะยังเป็นปัจจัยที่ทำให้ปรับประมาณผลประกอบการลงได้อีก โดยตัวแปรสำคัญอยู่ที่การพัฒนาวัคซีน

อย่างไรก็ตามสมมติฐานของ AWS ยังมองการฟื้นตัวของธุรกิจในลักษณะ UShaped Curve (ระหว่างปี 2563 – 2564) ทำให้ระยะยาวยังมองว่า AOT ยังมีความน่าสนใจ ในการลงทุน หลังราคาหุ้นปรับลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

3.เชื่อว่าเร็วๆนี้ จะเห็นทีมเศรษฐกิจชุดใหม่.... เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรฐกิจทุกภาคส่วน


บล.เอเชียพลัสเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ทีมครม.ชุดใหม่ได้เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับตําแหน่งเรียบร้อยแล้ว และสัปดาห์นีจากนสพ. กรุ งเทพธุรกิจเผยว่า นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีคลังคนใหม่ เชิญผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานกระทรวงการคลัง เพื่อเร่งออกมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจในช่วง 2H63 ดังที่ ASPS เคยนําเสนอว่าจะเร่งผลักดันทุกภาคส่วน

โดยหลักๆเชือว่าคือเม็ดเงินเศรษฐกิจ ของรัฐที่ยังคงค้างอยู่: วงเงินทียังไม่ได้อนุมัติและเบิกจ่ายในช่วงก่อนหน้าจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท จากที ASPS รวบรวมปัจจุบันยัง
เหลือวงเงินทียังไม่ได้อนุมัติอีกราว 6.12 แสนล้านบาท (เบิกจ่ายและอนุมัติไปแล้ว 3.88 แสนล้านบาท) ขณะทีฝั่งการจัดหาเงินทุน (Funding) ตาม พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ปัจจุบันมีการกู้เงิน ไปแล้ว ราว 3.97 หมื่นล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงวงเงินทีอนุมัติแล้ว ดังนั้นจึงประเมินว่าหากรัฐมีโอกาสกู้เงินเพิ่มอีกหากมีการอนุมัติมาตรการอืนๆเพิมเติม โดยปัจจุบัน หนี้สาธารณะของไทยคิดเป็น 44.76% ของ GDP ยังตํากว่าเพดานทีกําหนดไว้ไม่เกิน 60% ของ GDP และหนี้ทีเป็นสกุลเงิน ต่างประเทศคิดเป็น 1.17 % ต่อหนี้สาธารณะรวม ซึงยังไม่เกินเพดานที 10% เช่นกัน

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ภาคเอกชนเคยเสนอ : คาดเป็นมาตรการที่มีการพูด ถึงก่อนหน้า โดยเชื่อว่าจะเน้นไปทีการกระตุ้นภาคการบริโภค, การท่องเทียว, ภาคอสังหาริมทรัพย์, ภาคยานยนต์, การพักชําระหนี้และตลาดทุน เป็นต้น



ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย