โดย Peter Nurse
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันอังคารที่ 4 สิงหาคมมีดังต่อไปนี้
1. บรรยากาศการเจรจาเกี่ยวกับแอป TikTok เริ่มน่ากังวล
บรรยากาศการเจรจาเกี่ยวกับการซื้อกิจการของแอป Tik Tok ในสหรัฐโดย Microsoft (NASDAQ:MSFT) เริ่มส่อเค้าเกิดความขัดแย้งมากขึ้น และเป็นการกระทำที่อาจก่อให้เกิดสงครามบริษัทเทคโนโลยีอย่างเป็นวงกว้าง
Microsoft ได้ประกาศว่ากำลังอยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อซื้อกิจการแอปในสหรัฐ และในวันนี้ก็มีรายงานว่ามีบริษัทอื่นที่สนใจทำการซื้อกิจการแอป TikTok ส่วนหนึ่งจาก ByteDance หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปลี่ยนจุดยืนจากการแบนแอปและให้เวลาบริษัท 45 วันในการทำข้อตกลงการซื้อ
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้เปรยไว้เมื่อวานนี้ด้วยว่ารัฐบาลสหรัฐควรได้รับส่วนแบ่ง "จำนวนหนึ่ง" จากราคาขายของแอปด้วย แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรก็ตาม
ซึ่งคำพูดดังกล่าวได้กระตุ้นให้จีนออกมาตอบโต้ในหนังสือพิมพ์ China Daily ซึ่งทางกองบรรณาธิการได้ระบุว่า จีนจะไม่ยอมให้เกิดการ "โจรกรรม" บริษัทเทคโนโลยีจีนเป็นอันขาด
2. WHO ชี้อาจไม่มี "กระสุนเงิน" ที่จะกำราบโควิด-19 ได้อยู่หมัด
การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในสหรัฐ หลังจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ลดลงต่ำกว่า 50,000 รายเป็นวันที่สองติดต่อกันและจำนวนผู้เสียชีวิตก็ลดลงต่ำกว่าวันละหนึ่งหมื่นคนด้วย
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดชั้นแนวหน้าของรัฐบาลสหรัฐ ดร.แอนโธนี เฟาชี ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า รัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสูงควรพิจารณาประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง และเน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องลดยอดผู้ติดเชื้อให้ต่ำลงโดยเร็วก่อนที่จะถึงฤดูไข้หวัดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อาวุโสจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ด้วยว่า หนทางการกลับคืนสู่สภาพปกติอาจจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนาน และหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มยอมรับความจริงที่ว่าอาจไม่มีวัคซีนที่สมบูรณ์แบบที่จะเป็น "กระสุนเงิน" เพื่อกำราบโควิด-19 ได้อยู่หมัด
Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการบริหารองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า "มีวัคซีนจำนวนหนึ่งที่ในอยู่ระหว่างเฟสที่สามของการทดลองทางคลินิก และเราคาดหวังว่าจะมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพจำนวนมากที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ ทั้งนี้ขณะนี้ยังไม่มีกระสุนเงิน และอาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยก็เป็นได้"
3. หุ้น Apple (NASDAQ:AAPL) หนุนกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ ปรับฐานจากขาขึ้นที่แข็งแกร่งเมื่อวานนี้ นำโดย ดัชนี Nasdaq ซึ่งปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
เมื่อเวลา 6:30 น. (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ขยับลง 44 จุดหรือ 0.2% {{8839|สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า}} ติดลบ 0.3% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับลง 0.3%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าของทำเนียบขาวที่กำลังพิจารณาประกาศเพิ่มสวัสดิการว่างงานเอง เนื่องจากความล่าช้าของการตัดสินใจจากสภาได้ทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับเงินสนับสนุนสัปดาห์ละ $600
ดังนั้นจึงหมายความว่าตลาดกำลังรอคอยข่าวความคืบหน้าจากสภาสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยโฆษกสภา แนนซี เปโลซี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน ได้เผยว่าการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ที่มีความคืบหน้า "เล็กน้อย"
4. BP ผลประกอบการย่ำแย่ตามรอยบริษัทน้ำมันรายใหญ่อื่น ๆ
BP ได้ลดการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษเหลือ 5.25 เซนต์ต่อหุ้น และยังคงมีผลประกอบการที่อ่อนแอจากผลกระทบของการระบาดจากไวรัสโคโรนา
BP เผยว่าบริษัทขาดทุน 1.68 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่สอง จากที่มีการลดมูลค่าโครงการต่าง ๆ ถึง 1.09 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพราะราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างฉับพลัน
ทางด้านบริษัทคู่แข่งฝั่งยุโรปอย่าง Total, Shell (LON:RDSa) และ Equinor ต่างก็ปรับตัวขึ้น เนื่องจากผลประกอบการที่ออกมาดีแม้ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบาก ขณะที่ Exxon Mobil (NYSE:XOM) และ Chevron (NYSE:CVX) ของสหรัฐกลับมีผลประกอบการที่ย่ำแย่ที่สุด
5. บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Nikola
ฤดูกาลการรายงานผลประกอบการของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ และบริษัทที่น่าจับตาในวันนี้คือ Nikola ซึ่งจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองในวันนี้
Deutsche Bank (DE:DBKGn) ได้ระบุไว้ในบันทึกเมื่อวานนี้ว่า Nikola อาจเผยข้อมูลทางธุรกิจที่ช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นในระยะสั้น โดยอ้างอิงจาก Emmanuel Rosner นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank เผยว่าข้อมูลเหล่านั้นได้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย, แผนการสร้างเครือข่ายเชื้อเพลิงไฮโดรเจน และคู่ค้าภาคการผลิตสำหรับรถปิ๊กอัพ Badger
หุ้นของ Nikola ทะยานขึ้นมากว่า 11% แล้วในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อเทียบเป็นรายเดือนแล้วทรุดตัวลง 36%