โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคมมีดังต่อไปนี้
1. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ย่ำแย่ที่สุดของสหรัฐกำลังจะมาถึง
สำนักงานสถิติแห่งชาติสหรัฐจะเผยตัวเลขที่จะแสดงผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบในวันนี้
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่าอัตราการจ้างงานตั้งแต่ต้นจนถึงกลางเดือนเมษายนจะลดลงถึง 21 ล้านตำแหน่ง โดยจะมีกำหนดการรายงานตัวเลขในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT)
ทั้งนี้นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่ารายได้ของแรงงานโดยเฉลี่ยน่าจะพุ่งสูงขึ้น และหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะแสดงให้เห็นว่าการสูญเสียตำแหน่งงานส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในกลุ่มแรงงานรายได้ต่ำที่มีความเสี่ยงสูง
2. ตัวแทนเจรจาจากจีน-สหรัฐร่วมกันคลายปมขัดแย้ง
ตัวแทนเจรจาทางการค้าจากทั้งสหรัฐและจีนต่างก็ให้คำมั่นว่าจะดำเนินตามข้อตกลง 'เฟส 1' ตามที่ได้ลงนามไปเมื่อเดือนมกราคม
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ข่มขู่ว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงหากจีนไม่สั่งซื้อสินค้าสหรัฐตามปริมาณที่ได้ตกลงกันไว้
สำนักข่าวซินหัวประจำประเทศจีนได้ระบุว่า ทั้งสองประเทศได้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสาธารณสุข อีกทั้งยังร่วมเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเอื้อต่อการดำเนินตามข้อตกลงอีกด้วย
3. เฟดจะใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบหรือไม่
Fed fund future ได้ชี้ว่าตลาดคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยจนติดลบในปีหน้า แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่เฟดจะต้องยกระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็วเพื่ออุ้มเศรษฐกิจสหรัฐ
Fed fund future มีราคาสูงสุดถึง 100.025 เมื่อวานนี้ของฝั่งนิวยอร์ก แสดงให้เห็นถึงความคาดหวังว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยลงต่ำกว่าศูนย์ โดยเมื่อคืนนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแบบอายุ 2 และ 5 ปีได้ดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.11% และ 0.28% ตามลำดับ ส่วน ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐ ย่อตัวลง 0.2%
ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ทรุดตัวลงและการคาดการณ์ว่าจะต้องมีการประกาศใช้นโยบายทางการเงินระยะยาวอย่างเป็นวงกว้าง ล้วนส่งผลให้ Bitcoin นำกลุ่มสกุลเงินคริปโตไต่กลับขึ้นไปเหนือระดับ $10,000 เป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน
4. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวก โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนมาจากการเจรจาทางการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน
ความคาดหวังต่อการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้ Nasdaq Composite ไต่กลับขึ้นไปสู่แดนบวกเมื่อวานนี้ และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าชี้ให้เห็นว่าดัชนีจะเปิดตัวบวก 1.1% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าและสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าล้วนปรับขึ้นในทำนองเดียวกัน
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปก็มีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงเนื่องในวันหยุดของสหราชอาณาจักร โดยหุ้น Stoxx 600 ดีดขึ้น 0.7%
5. หุ้น Uber พุ่งขึ้น แม้ Khosroshahi สัญญา (อีกครั้ง) ว่าจะทำกำไรได้ในอนาคต
หุ้น Uber (NYSE:UBER) พุ่งขึ้นอย่างฉับพลันหลังเวลาการซื้อขายเมื่อซีอีโอของบริษัท Dara Khosroshahi ได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะลดต้นทุนอีกในปีนี้เพื่อรับมือกับการขาดทุน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนอีกครั้งว่าปีหน้าบริษัทจะต้องมีผลกำไรจากการดำเนินงานอย่างแน่นอน
การขาดทุนในไตรมาสแรกขยายตัวขึ้นอย่างหนักถึง 2.94 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่บริษัทปรับลดการประเมินมูลค่าการลงทุนที่ส่งผลขาดทุน โดยตัวเลขที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือรายได้จาก Uber Eats ที่สูงขึ้นถึง 52% แม้ว่าจะไม่มีรายละเอียดใด ๆ ที่ระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวถือเป็นผลกำไรหรือไม่ก็ตาม
ทั้ง Uber และ Lyft (NASDAQ:LYFT) ต่างก็เผยว่าปริมาณการใช้บริการของบริษัทมีอัตราที่สูงขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐเริ่มทยอยกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
ดูความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก
https://th.investing.com/indices/major-indices
ดูหุ้นรายตัวของอเมริกา
https://th.investing.com/equities/americas
ดัชนีฟิวเจอร์สทั่วโลก