🌎 มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับนักลงทุนกว่า 150K คนจาก 35 ประเทศ ที่เลือกหุ้นที่ชนะตลาดที่คัดสรรด้วยเทคโนโลยี AIปลดล็อกเลย

5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ความหวาดกลัวต่อเศรษฐกิจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่ 05/08/2567 07:41
© Reuters

Investing.com -- ความหวาดกลัวต่อเศรษฐกิจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงเกินไปนานเกินไป จนส่งผลกระทบต่อการเติบโต รายงานผลประกอบการกำลังมาอีกชุด และราคาน้ำมันยังคงผันผวนท่ามกลางความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

นี่คือ 5 สิ่งที่ควรจับตาสัปดาห์นี้

  1. ข้อมูลสหรัฐฯ และการแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด

หลังจากรายงาน ข้อมูลจ้างงาน เดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอในวันศุกร์ ทำให้เกิดความกลัวต่อแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับสัปดาห์หน้าจึงเบาบางลงอย่างมาก

สถาบันการจัดการอุปทานจะเผยแพร่ดัชนี ภาคบริการ ในวันจันทร์ ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตเล็กน้อย

นักลงทุนจะได้รับข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับสถานะของตลาดแรงงานในวันพฤหัสบดี โดยมีรายงานประจำสัปดาห์ของ ข้อมูลขอรับสวัสการว่างงานเบื้องต้น ซึ่งคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี

นักลงทุนจะได้มีโอกาสฟังคำชี้แจงจากประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก แมรี เดลีย์ และประธานเฟดสาขาริชมอนด์ โทมัส บาร์กิน หลังจากที่ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว แต่เปิดโอกาสให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

  1. รายงานผลประกอบการเพิ่มเติม

แม้ว่าบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดส่วนใหญ่จะรายงานผลประกอบการบางส่วนไปแล้ว แต่ยังมีบริษัทที่กำลังรอประกาศผลประกอบการเพิ่มเติม

ผลประกอบการของบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมอย่าง Caterpillar (NYSE:CAT) และบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสื่อและความบันเทิงอย่าง Walt Disney (NYSE:DIS) จะให้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะการผลิตและผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสาธารณสุข อย่าง Eli Lilly (NYSE:LLY) ผู้ผลิตยาลดน้ำหนัก และ Super Micro Computer (NASDAQ:SMCI) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกระแสความสนใจด้านปัญญาประดิษฐ์ของตลาด

หุ้นสหรัฐฯ ถูกเทขายเป็นวันที่สองในวันศุกร์ ทำให้ดัชนี Nasdaq Composite เข้าสู่เขตการปรับฐาน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว ทำให้เกิดความกลัวว่าเฟดจะรอช้าเกินไปในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

สิ่งที่เพิ่มแรงกดดันให้หุ้นลดลงคือการที่หุ้น Amazon (NASDAQ:AMZN) และ Intel (NASDAQ:INTC) ลดลง หลังจากที่มีผลประกอบการรายไตรมาสและการคาดการณ์ที่น่าผิดหวัง

  1. แนวโน้มของจีน

นักลงทุนจะได้รับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในช่วงครึ่งหลังของปีด้วยข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่ในสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยการสำรวจภาคเอกชนของ กิจกรรมภาคบริการ ตามด้วย ข้อมูลการค้า ในวันพุธ และ ราคาผู้บริโภค ในท้ายสัปดาห์

ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ไม่สู้ดีของจีน และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่คาดคิดเมื่อเร็ว ๆ นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่เพิ่มมากขึ้นในความพยายามของปักกิ่งในการเสริมสร้างการเติบโต

เจ้าหน้าที่จะจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อในวันศุกร์อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพื่อหาเบาะแสว่าจำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกมากเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา

  1. การตัดสินใจด้านอัตาดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย

คาดว่า RBA จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายที่จะเกิดขึ้นในวันอังคารนี้ หลังจากข้อมูลเมื่อเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิดสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีในไตรมาสที่ 2 และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ลดลงในไตรมาสแรก

นักลงทุนจะให้ความสนใจกับแนวทางในอนาคตของธนาคารกลาง โดยตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาส 70% ที่อัตราดอกเบี้ยจะผ่อนคลายลงภายในสิ้นปีนี้ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลง

  1. ราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบลดลงในวันศุกร์ โดยอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ และจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ ทำให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มอุปสงค์

รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ประกอบกับกิจกรรมการผลิตที่อ่อนแอในจีน ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคน้ำมัน

นักลงทุนน้ำมันยังจับตาดูตะวันออกกลาง ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านของเลบานอน กล่าวว่าความขัดแย้งกับอิสราเอลได้เข้าสู่ช่วงใหม่แล้ว

ขณะเดียวกัน การประชุมกลุ่ม OPEC+ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่ม ซึ่งรวมถึงแผนการเริ่มยกเลิกการลดการผลิตน้ำมันบางส่วนตั้งแต่เดือนตุลาคม

--ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย