โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันศุกร์ที่ 24 เมษายนมีดังต่อไปนี้
1. สภาสหรัฐผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, มนูชินจ่อวางแผนช่วยเหลืออุตสาหกรรมน้ำมัน
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งล่าสุดมูลค่า 4.84 แสนล้านเหรียญสหรัฐจะเป็นการขยายงบประมาณให้กับโครงการ Paycheck Protection เดิมของรัฐที่ตั้งเป้าเพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดย่อม และจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับโรงพยาบาลและการให้บริการตรวจหาผู้ติดเชื้อ โดยประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะลงนามในวันนี้หลังจากทั้งสภาและวุฒิสภาสหรัฐได้เห็นชอบมาตรการในช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาจัดตั้งกองทุนกู้ยืมสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและน้ำมันเบนซินโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมผ่านพ้นภาวะความผันผวนของตลาดไปได้
มนูชินเสริมว่า ขณะนี้เขากำลังพิจารณาหลาย ๆ ทางเลือกและยังไม่ได้ทำการตัดสินใจใด ๆ โดยก่อนหน้านี้สภาฝั่งเดโมแครตเคยคัดค้านข้อเสนอของมนูชินที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมน้ำมันผ่านการสั่งซื้อน้ำมันเพื่อการกักตุนเชิงกลยุทธ์
2. ข้อมูลทางเศรษฐกิจฝั่งยุโรปย่ำแย่, คณะผู้นำยุโรปยังไม่สามารถสรุปนโยบายได้
ยอดการค้าปลีกสหราชอาณาจักรประจำเดือนมีนาคมออกมาดิ่งลงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจจาก Ifo ของเยอรมนีประจำเดือนเมษายนก็ทรุดตัวลงต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน
ตัวเลขเหล่านี้ประกาศออกมาท่ามกลางความผิดหวังของตลาดต่อการประชุมของคณะผู้นำฝั่งยุโรปที่ยังไม่สามารถตกลงนโยบายเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจได้ โดยการประชุมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ได้มีการเห็นชอบแนวคิดของการจัดตั้ง 'กองทุนเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ' แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะจัดสรรงบประมาณอย่างไรและจะมีขนาดเท่าใด
ค่าเงินยูโรปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ $1.0727 ก่อนที่จะพลิกฟื้นกลับมาเล็กน้อย
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก แม้จะมีความผิดหวังต่อยาต้านไวรัส
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวก ฟื้นขึ้นจากข่าวที่น่าผิดหวังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการค้นพบวิธีการรักษาการติดเชื้อโควิด-19
เมื่อเวลา 6:20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1020 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าดีดขึ้น 98 จุดหรือราว 0.4% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าปรับขึ้น 0.5% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าขยับขึ้น 0.3%
Gilead Sciences ได้ออกมาปฏิเสธข่าวเมื่อวานนี้ที่ระบุว่าผลการทดลองครั้งแรกของยาต้านไวรัส Remdesivir เพื่อรักษาการติดเชื้อโควิด-19 นั้นล้มเหลว โดย Gilead ชี้ว่าการทดลองดังกล่าว ‘ยังไม่ถึงขั้นตอนสรุป’
ทั้งนี้ในวันนี้จะมีการรายงานยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเวลา 8:30 และ 10.00 น. ตามลำดับ
4. หุ้น Intel ดิ่งหลังบริษัทยกเลิกการประกาศตัวเลขคาดการณ์, Verizon กับ Amex เตรียมรายงานผลประกอบการ
หุ้นของ Intel ดิ่ง 4.5% ก่อนเวลาตลาดเปิดหลังจากบริษัทได้ยกเลิกการเผยแพร่ตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานสำหรับปีนี้ แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกของบริษัทจะออกมาดีเกินคาดก็ตาม โดยหุ้นได้รับแรงกดดันจาก Apple (NASDAQ:AAPL) ที่ประกาศว่าจะเปิดตัวชิพรุ่นใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์ Mac รุ่นใหม่ในปีหน้า
หุ้นของ E-Trade และ Capital One ก็อาจได้รับแรงกดดันเช่นกันเมื่อตลาดเปิด หลังจากผลประกอบการที่ประกาศออกมาหลังเวลาตลาดปิดเมื่อวานนี้ออกมาต่ำกว่าคาด
ปฏิทินการรายงานผลประกอบการในวันนี้นำโดย Verizon และ American Express ที่จะรายงานผลประกอบการก่อนเวลาตลาดเปิด
5. ตลาดน้ำมันเริ่มคงตัว หลังจากโบรกเกอร์เริ่มปรับกฎเกณฑ์ให้เข้มงวดขึ้น
ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาภายหลังจากสัปดาห์ที่ผันผวน และหลังจากแรงกดดันทางเทคนิคที่มีต้นเหตุมาจากสัญญาเดือนพฤษภาคมที่ใกล้หมดอายุเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนเกี่ยวกับภาพรวมของอุปสงค์-อุปทานน้ำมันในระยะสั้น
เมื่อเวลา 6:10 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลง 2.2% เท่ากับ $16.14 ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ขยับลง 0.2% อยู่ที่ $21.29 ต่อบาร์เรล โดยทั้งสองสัญญายังคงอยู่ที่ระดับที่ต่ำกว่าราคาเปิดเมื่อต้นปีถึง 60%
TD Ameritrade และโบรกเกอร์รายย่อยอื่น ๆ ได้ดำเนินการเพื่อระงับไม่ให้ผู้ลงทุนเพิ่มการถือสัญญาใหม่ในทั้งสองสัญญา ขณะที่โบรกเกอร์บางรายก็ได้เพิ่มค่าหลักประกันขั้นต้นด้วย