โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนในวันศุกร์ที่ 17 เมษายนมีดังต่อไปนี้
1. ปธน.ทรัมป์ยอมปล่อยให้ผู้ว่าการรัฐเปิดเศรษฐกิจเอง
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เลี่ยงการปะทะกับผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ในสหรัฐ ด้วยการกล่าวว่าผู้ว่าการรัฐจะ 'จัดการเอง' เมื่อถึงเวลาเปิดเศรษฐกิจ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้อ้างว่ามี "อำนาจเบ็ดเสร็จ" ในการสั่งการดังกล่าว
ทั้งนี้แนวทางที่ทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาเมื่อคืนนี้ยังไม่มีการระบุกำหนดการแน่ชัดเกี่ยวกับการยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ แต่ได้แนะนำว่าขอให้แต่ละรัฐมียอดผู้ติดเชื้อที่ลดลงก่อนประมาณสองสัปดาห์
ทว่าในการแถลงรายวันของเขา ปธน.ทรัมป์ยังคงดูกระวนกระวายเช่นเดิมที่จะเปิดเศรษฐกิจให้ได้โดยเร็วที่สุด และกล่าวว่า "พวกเราจะต้องช่วยให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า และเราต้องเปิดเศรษฐกิจให้เร็ว เร็วมาก ๆ"
2. ไตรมาสแรกของจีนย่ำแย่ตามคาด
เศรษฐกิจจีนหดตัวลงในไตรมาสแรกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการเริ่มเก็บข้อมูล GDP รายไตรมาสเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้ว
ส่วนตัวเลขผลผลิตจากโรงงานที่รายงานออกมาในเวลาเดียวกันได้แสดงให้เห็นถึงการพลิกฟื้นที่รวดเร็วกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจเสียอีก โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมีนาคมนั้นหดตัวลงต่ำกว่าที่คาดไว้ 1.1% ส่วนยอดค้าปลีกยังคงทรุดตัวลง 15.8%
ทั้งนี้นักวิเคราะห์หลายท่านยังไม่มั่นใจว่าการพลิกฟื้นในภาคอุตสาหกรรมจะมีความยั่งยืนหรือไม่ เนื่องด้วยโรงงานในจีนส่วนใหญ่พึ่งพาการส่งออกและอุปสงค์ในยุโรปกับอเมริกาเหนือช่วงไตรมาสที่สองก็ยังคงทรุดตัวลงอย่างหนัก
นอกจากนี้จีนยังได้ปรับยอดผู้เสียชีวิตในเมืองอู่ฮั่นเพิ่มขึ้นถึง 50% หลังจาก 'การสืบสวน' อีกด้วย
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวกหลังจากรายงานของบริษัท Gilead
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวสูงขึ้นฉับพลันในคืนนี้ ด้วยความคาดหวังว่าอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐและยุโรปได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
เมื่อเวลา 6:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (10:40 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 769 จุดหรือ 3.3% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าขยับขึ้น 3.0% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าปรับตัวขึ้น 2.3%
ตลาดหุ้นยุโรปก็ปรับตัวขึ้นหลังจากมีข่าวดีจากบริษัทยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส L’Oreal และ LVMH หลังเวลาตลาดปิดเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ระบุว่าการทดลองยาต้านไวรัสของ Gilead Sciences มีผลลัพธ์ที่น่าพอใจในการรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
การรายงานผลประกอบการในวันนี้นำโดยบริษัทผู้ผลิตสินค้าผู้บริโภคยักษ์ใหญ่ Procter & Gamble
4. มาครงยืนกรานขอให้มีการจัดตั้งตราสารหนี้โคโรนา
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง ได้เรียกร้องให้มีการออกตราสารหนี้ร่วมของฝั่งยูโรโซนอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศทางฝั่งยุโรป
มาครงได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า “หากพวกเราทำมันไม่ได้ในเร็ววันนี้ ผมบอกคุณได้เลยว่าพวกประชานิยมจะชนะ วันนี้ พรุ่งนี้ วันมะรืน ในอิตาลี สเปน ไม่ก็ในฝรั่งเศสหรือที่ไหนก็ตามแต่"
ส่วนต่างระหว่างตราสารหนี้ยุโรปได้ขยายตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากรัฐบาลอิตาลีถูกปฏิเสธในการขอใช้กลไกรักษาเสถียรภาพทางการเงินของยุโรปเพื่อเยียวยาสภาวะวิกฤตทางการเงิน เนื่องด้วยความกังวลว่าการกระทำดังกล่าวอาจนำไปสู่การแทรกแซงด้านนโยบายจากประเทศต่าง ๆ อย่างเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้อิตาลีได้เริ่มต้นปี 2020 ด้วยภาระหนี้ 135% ของ GDP และจึงเกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของอิตาลีภายหลังผ่านพ้นวิกฤตการณ์การระบาดครั้งนี้
5. ตลาดพลังงานผันผวน, ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวขึ้น
ตลาดพลังงานมีความผันผวนอีกครั้ง และยังคงส่งสัญญาณอุปทานเกินอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดน้ำมันและน้ำมันเบนซิน
ก่อนหน้านี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเดือนถัดไปของ น้ำมันดิบสหรัฐ ทรุดตัวลงเกือบ 8% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปีที่ $18.02 ต่อบาร์เรล แต่ต่อมาก็เด้งกลับขึ้นมาติดลบ 6.2% เท่ากับ $18.63 เมื่อเวลา 6:40 น. ทว่าปริมาณการซื้อขายส่วนใหญ่กลับอยู่ที่สัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายนซึ่งมีความผันผวนน้อยกว่า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมัน เบรนท์ ที่ส่งมอบในเดือนมิถุนายนบวกขึ้น 2.6% เท่ากับ $28.64 ต่อบาร์เรล