🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

5 ปัจจัยที่ต้องจับตา: ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ และจีน

เผยแพร่ 07/08/2566 07:36
© Reuters
US500
-
IXIC
-

Investing.com -- ทุกสายตาจับจ้องไปที่สหรัฐอเมริกาในสัปดาห์นี้ ที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ ข้อมูลจีดีพีจากสหราชอาณาจักรจะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากจีนอาจชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืด นี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์ของคุณ

  1. ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ

สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูล เงินเฟ้อ ของเดือนกรกฎาคมในวันพฤหัสบดี ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าแรงกดดันด้านราคามีแนวโน้มลดลงหรือไม่ และหากตลาดเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น เชื่อว่าเฟดใกล้จะสิ้นสุดวัฏจักร {{frl| |การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย}}

ตัวเลขที่ลดลงจะทำให้เฟดมีแนวโน้มระงับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ หลังจากการปรับขึ้น 25 จุดเมื่อเดือนที่แล้ว

ในวันศุกร์ สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูล PPI ประจำเดือนกรกฎาคม โดยราคาผู้ผลิตหลัก(core PPI)คาดว่าจะเพิ่มขึ้น by 2.3% จากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจะได้รับฟังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนในช่วงสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เช่น นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และผู้ว่าการเฟด มิเชล โบว์แมน

  1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ หยุดวิ่ง

วอลล์สตรีทปิดตลาดในวันศุกร์ที่ย่อตัวในวงกว้าง S&P และ Nasdaq ย่อตัวหนักสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรหลังจากตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นมาห้าเดือน

เส้นทางการเคลื่อนที่ในระยะสั้นสำหรับตลาดอาจขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลเงินเฟ้อในวันพฤหัสบดีที่จะแสดงราคาผู้บริโภคอยู่ในระดับใด นักลงทุนยังจับตาดูเส้นทางของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอย่างใกล้ชิด ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาด้วยการพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในปีที่แล้ว หลังจากการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐโดย Fitch

อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตรซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจทำให้อุปสงค์ของหุ้นลดลง

ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าในขณะที่การเติบโตของงานยังคงดำเนินต่อไปในระดับปานกลางในการเติบโตของค่าจ้างในเดือนกรกฎาคมยังคงเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้เกิดความกังวลว่าเฟดอาจคงอัตราที่สูงขึ้นไปอีกนาน

  1. GDP ของสหราชอาณาจักร

สหราชอาณาจักรจะเปิดเผยข้อมูล GDP ประจำไตรมาสที่สองในวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อย บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังคงซบเซา ในเดือนพฤษภาคม ดัชนีหดตัวน้อยกว่าที่คาดไว้ โดยเกือบจะหยุดชะงักในช่วงสองเดือนก่อนหน้า

ธนาคารกลางอังกฤษขึ้นอัตราดอกเบี้ย สูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 5.25% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันครั้งที่ 14 และเตือนว่าต้นทุนการกู้ยืมมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง

อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ แตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และลดลงช้ากว่าที่อื่น โดยอยู่ที่ 7.9% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาประเทศแนวหน้า

รองผู้ว่าการ Ben Broadbent กล่าวว่าการรักษาอัตราที่ค่อนข้างสูงในช่วงเวลานี้เป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราเงินเฟ้อ แม้ว่า BoE จะมองว่าเศรษฐกิจเติบโตเพียงเล็กน้อยในปีต่อ ๆ ไปก็ตาม

  1. ข้อมูลเงินเฟ้อของจีน

จีนจะเปิดเผยตัวเลข ดุลการค้า ในวันอังคาร ตามด้วยข้อมูล เงินเฟ้อ เดือนกรกฎาคมในวันพุธ ซึ่งคาดว่าจะแสดงถึงการลดลงของราคาผู้บริโภค ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มดังกล่าวของจีน

เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไตรมาสแรก หลังจากมาตรการเข้มงวดในยุคโควิดถูกยกเลิกอย่างกระทันหันเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่การฟื้นตัวกลับหยุดชะงักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศอ่อนตัวลง

ทางการได้ออกมาตรการเชิงนโยบายหลายชุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัว แม้ว่ารายละเอียดจะยังไม่มากนัก และนักลงทุนคาดว่าจะมีการสนับสนุนตามมาอีก

  1. ข้อมูลของยูโรโซน

ในยูโรโซน เยอรมนีจะเปิดเผยข้อมูล การผลิตภาคอุตสาหกรรม ในวันจันทร์ รายงานดังกล่าวคาดว่าจะชี้ไปที่การลดลงท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจากจีน

เศรษฐกิจเยอรมนีชะงักงันในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 การเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และคำสั่งซื้อจากโรงงานที่ต่ำ ล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเยอรมัน

--ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย