Investing.com - ข้อมูลอย่างเป็นทางการเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ เศรษฐกิจไทยขยายตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ในไตรมาสแรก โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการท่องเที่ยว
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวได้ล่าช้ากว่าคู่แข่งในภูมิภาคเนื่องจากโควิด-19 แต่ได้นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาซึ่งช่วยเพิ่มการจ้างงานและอุปสงค์ในประเทศ คาดว่าการฟื้นตัวของภาคส่วนนี้ของไทยจะช่วยชดเชยผลกระทบจากการส่งออกที่ลดลง
หน่วยงานวางแผนของรัฐไทยย้ำแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2566 ในขณะที่ประเทศกำลังรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังจากที่ฝ่ายค้านได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างงดงามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นำโดยพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนนไว้วางใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเป็นอันดับที่สาม
ไทยมีการเติบโต 2.7% ในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมจากปีก่อนหน้านี้ ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC)
เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP เพิ่มขึ้น 1.9% ในไตรมาสเดือนมีนาคม เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.7%
เมื่อเทียบกับการหดตัว 1.1% ในไตรมาสที่สี่ของปี 2565 ซึ่งแก้ไขจากการลดลง 1.5%
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 2.3% เมื่อเทียบรายปีในเดือนม.ค.-มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.4% ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้า
สภาพัฒน์ยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP ในปี 2566 ไม่เปลี่ยนแปลงที่ระหว่าง 2.7% ถึง 3.7% มีการเติบโตในปีที่แล้วอยู่ที่ 2.6%
นอกจากนี้ยังคงการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 อยู่ที่ 28 ล้านคน โดยทั่วไปการท่องเที่ยวคิดเป็น 11-12% ของ GDP
ไทยทุบเป้าท่องเที่ยวปี 2565 นักท่องเที่ยวต่างชาติ 11.15 ล้านคน ก่อนการระบาดใหญ่ในปี 2562 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึงเกือบ 40 ล้านคน โดยมีใช้จ่ายถึง 1.91 ล้านล้านบาท (56 พันล้านดอลลาร์)
สภาพัฒน์ยังคงคาดการณ์การส่งออกสินค้าในปี 2566 ว่าจะลดลง 1.6% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ระหว่าง 2.5% ถึง 3.5%
1 ดอลลาร์ = 33.84 บาท