การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB และการจีน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเป็นที่สนใจท่ามกลางสัปดาห์ของตลาดโลก

จีนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศก่อนหน้านี้ได้ผลักดันหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่สู่ระดับสูงสุดใหม่ นอกจากข้อมูล GDP แล้ว จีนยังจะเปิดเผยตัวเลขการค้า ราคาบ้าน และยอดค้าปลีก ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ประเทศกําลังเผชิญเมื่อใกล้ถึงสิ้นปี

ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 4 จุดในวันพฤหัสบดี การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการหดตัวที่ไม่คาดคิดในกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนในเดือนกันยายนและการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อซึ่งต่ํากว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน แต่ ECB อาจยังคงระมัดระวัง โดยการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอาจเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมเมื่อมีการคาดการณ์ใหม่

ในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลยอดค้าปลีกที่จะประกาศในวันพฤหัสบดีจะให้ภาพรวมของความแข็งแกร่งของภาคผู้บริโภค ข้อมูลตลาดแรงงานล่าสุดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และมีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและดอลลาร์สหรัฐ รายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งสามารถตอกย้ําแนวโน้มนี้ได้

นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการจากธนาคารรายใหญ่ เช่น Goldman Sachs และ Bank of America ซึ่งทั้งคู่จะเปิดเผยผลประกอบการในวันอังคาร จะให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพของผู้บริโภค

ผลประกอบการของบริษัทในยุโรปก็ได้รับความสนใจเช่นกัน โดย LVMH และ ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ อัมสเตอร์ดัม (Euronext Euronext Amsterdam:ASML เตรียมรายงานผลประกอบการ แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซนจะซบเซา แต่คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2023 นักวิเคราะห์ยังคงหวังว่าบริษัทในยุโรปจะเป็นไปตามความคาดหวัง ซึ่งอาจผลักดันดัชนี STOXX 600 ไปสู่ระดับสูงสุดใหม่

ในสหราชอาณาจักรตลาดตราสารหนี้กําลังเตรียมพร้อมสําหรับการประกาศงบประมาณครั้งแรกของรัฐบาลแรงงานใหม่ในวันที่ 30 ตุลาคม ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกฎการกู้ยืมที่อาจเกิดขึ้นโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Rachel Reeves ได้นําไปสู่ผลตอบแทนทองคําที่สูงขึ้น ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนกันยายนของสหราชอาณาจักรซึ่งจะครบกําหนดในวันพุธ จะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจทําให้ความกังวลของตลาดรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อไม่ได้รับการควบคุมอย่างเพียงพอ

ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่านโยบายการเงินในอนาคตจะยังคงไม่แน่นอนด้วยสัญญาณที่หลากหลายจากผู้ว่าการ Andrew Bailey และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Huw Pill

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน