รัสเซียรักษาสายด่วนวิกฤตกับสหรัฐฯ และนาโตท่ามกลางความตึงเครียด

ท่ามกลางความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นและความขัดแย้ง รัสเซีย nslation="ยูเครน">ยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น

ในขณะที่กองกําลังรัสเซียเดินหน้าต่อไปและสหรัฐฯ พิจารณาอนุญาตให้เคียฟเปิดฉากโจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียด้วยขีปนาวุธตะวันตก ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เมื่อวันที่ 12 กันยายน เตือนว่าการสนับสนุนของตะวันตกสําหรับการกระทําดังกล่าวจะช่วยยูเครนยับยั้งการมีส่วนร่วมของนาโตและประเทศในยุโรปในสงครามยูเครน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Alexander Grushko ซึ่งรับผิดชอบความสัมพันธ์กับรัสเซียและ NATO แสดงความกังวลเกี่ยวกับการให้ความสําคัญกับความสามารถด้านนิวเคลียร์ของนาโตที่เพิ่มขึ้นในยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ในการตอบโต้ รัสเซียกําลังแก้ไขหลักคําสอนนิวเคลียร์เพื่อส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะปกป้องความมั่นคงของชาติด้วยทุกวิถีทางที่จําเป็น

การปรับนิวเคลียสของสหรัฐอเมริกาเพื่อลดเกณฑ์สําหรับการปรับใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบสนองต่อการโจมตีด้วยอาวุธทั่วไป รัสเซียนี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ระบุว่าจีนเป็นคู่แข่งหลัก และรัสเซียเป็นภัยคุกคามที่สําคัญที่สุดของรัฐชาติ

สายด่วนเดิมระหว่างมอสโกและวอชิงตัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1963 หลังจากวิกฤตขีปนาวุธคิวบา มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีการสื่อสารโดยตรงระหว่างผู้นําสหรัฐฯ และรัสเซียเพื่อหลีกเลี่ยงการตีความผิดที่อาจยกระดับความขัดแย้ง ระบบนี้ซึ่งพัฒนาเป็นลิงก์การสื่อสารคอมพิวเตอร์ที่ปลอดภัย ถูกนํามาใช้ในช่วงวิกฤตการณ์สําคัญหลายครั้ง รวมถึงสงครามหกวัน การรุกรานอัฟกานิสถานของโซเวียต การโจมตี 9/11 และผลพรุนของการรุกรานอิอีรักของสหรัฐฯ

เพื่อลดความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์รัสเซีย จึงมีการจัดตั้งสายด่วนระหว่างกระทรวงเพนตากอน ยูเครน รัสเซีย รัสเซีย ในช่วงสงครามเย็น หลังจากการส่งกองกําลัง R รัสเซียเข้าไปในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2022 ได้มีการสร้างแนว "ลดความขัดแย้ง" เพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งบานปลายไปสู่สงครามระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย

ในเดือนกรกฎาคม Andrei Belousov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ติดต่อกับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อสงสัยของรูมอสโกเกี่ยวกับแผนการโจมตีรัสเซียของยูเครน ซึ่งมอสโกเชื่อว่าได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ The New York Times รายงานว่าการสนทนานี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม

นอกจากนี้ สายด่วนรัสเซีย-นาโต้ ยูเครน ในปี 2556 ทําหน้าที่ลดความเข้าใจผิดระหว่างวิกฤต สายการสื่อสารเหล่านี้ยังคงใช้งานได้ในขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศนําทางความซับซ้อนของสงครามยูเครนและผลกระทบในวงกว้าง

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน