กองทุนตราสารหนี้ของสหรัฐฯ ประสบกับการไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยนับเป็นระยะเวลา 16 สัปดาห์ติดต่อกัน ณ สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันพุธที่ 18 กันยายน 2024 รูปแบบการไหลเข้านี้สอดคล้องกับความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะดําเนินการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างมีนัยสําคัญ ธนาคารกลางส่งมอบความคาดหวังเหล่านี้ โดยลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในวันพุธ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแนวทางที่ระมัดระวังในการผ่อนคลายทางการเงิน การตัดสินใจนี้ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะของตลาดงาน
นักลงทุนนําเงินสุทธิ 6.76 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนพันธบัตรสหรัฐฯ ในระหว่างสัปดาห์ ซึ่งเป็นจํานวนเงินที่ใหญ่ที่สุดในรอบสามสัปดาห์ ตามข้อมูลจาก LSEG การไหลเข้าแข็งแกร่งเป็นพิเศษในบางกลุ่มของตลาดตราสารหนี้ กองทุนตราสารหนี้ที่ต้องเสียภาษีในประเทศทั่วไปมีเงินไหลเข้า 2.19 พันล้านดอลลาร์ มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2024 กองทุนระดับการลงทุนระยะสั้นถึงระดับกลางและกองทุนหนี้เทศบาลก็ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นกัน โดยมีเงินไหลเข้า 1.78 พันล้านดอลลาร์และ 718 ล้านดอลลาร์ตามลําดับ
ในทางตรงกันข้าม กองทุนหุ้นสหรัฐฯ ประสบกับการชะลอตัวของยอดขายสุทธิ โดยลดลงสู่ระดับต่ําสุดในรอบสี่สัปดาห์ โดยมีเงินออกจากกองทุน 1.37 พันล้านดอลลาร์ กองทุนขนาดเล็กพลิกกลับแนวโน้มการไหลออกสองสัปดาห์ โดยดึงดูด 467 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กองทุนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และหลายกองทุนก็ไม่ได้ผลดีเช่นกัน โดยมีการไหลออกสุทธิประมาณ 602 ล้านดอลลาร์ 565 ล้านดอลลาร์ และ 271 ล้านดอลลาร์ตามลําดับ
กองทุนภาคส่วนไม่ได้รับความนิยมเท่า โดยมียอดขายสุทธิเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกันอยู่ที่ 557 ล้านดอลลาร์ ภายในกองทุนภาคส่วน กองทุนการเงินและเทคโนโลยีต้องเผชิญกับการไถ่ถอนจํานวนมากที่ 983 ล้านดอลลาร์และ 389 ล้านดอลลาร์ตามลําดับ ในทางกลับกันกองทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นที่ต้องการโดยมีการซื้อสุทธิจํานวน 561 ล้านดอลลาร์
กองทุนตลาดเงินซึ่งมักทําหน้าที่เป็นบารอมิเตอร์สําหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุน ได้ลงทะเบียนการไหลออกรายสัปดาห์เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดสัปดาห์ โดยมีเงินจํานวนมาก 29.19 พันล้านดอลลาร์ออกจากกองทุนเหล่านี้ การไหลออกนี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงความชอบของนักลงทุนที่เปลี่ยนไปในแง่ของการตัดสินใจเชิงนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ
รอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน