ศาลฎีกาจํากัดผู้พิพากษาภายในของ ก.ล.ต.

ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกาได้มีคําตัดสินที่สําคัญซึ่งส่งผลต่อการดําเนินการบังคับใช้ของสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาศาลได้ตัดสินให้มีการท้าทายกระบวนการพิจารณาคดีของศาลภายในของ SEC ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างสําหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่น ๆ

ศาลภายในของ ก.ล.ต. ประกอบด้วยผู้พิพากษากฎหมายปกครองที่จัดการการดําเนินการบังคับใช้ที่อ้างถึงโดยกรรมาธิการของหน่วยงาน ผู้พิพากษาเหล่านี้มีอํานาจในการดําเนินการพิจารณาคดี ออกหมายเรียก และตัดสินเกี่ยวกับหลักฐานและการลงโทษ โดยเสนอทางเลือกที่เร็วกว่าการพิจารณาคดีของศาลรัฐบาลกลางด้วยความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลักทรัพย์

ความท้าทายต่อระบบภายในของ SEC เกิดขึ้นจาก George Jarkesy ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในเท็กซัส Jarkesy ถูกปรับและถูกห้ามออกจากอุตสาหกรรมในปี 2013 หลังจากที่ ก.ล.ต. ตัดสินว่าเขาได้กระทําการฉ้อโกงหลักทรัพย์ ผู้พิพากษาฝ่ายปกครองของ SEC ตัดสินว่า Jarkesy และบริษัทของเขา Patriot28 ละเมิดกฎหมายของ SEC โดยบิดเบือนมูลค่าการถือครองของกองทุน ส่งผลให้ต้องเสียค่าปรับทางแพ่ง 300,000 ดอลลาร์ และถูกปลดเกือบ 685,000 ดอลลาร์

ความถูกต้องตามกฎหมายของกระบวนการภายในองค์กรนี้ได้รับการโต้แย้งในศาลอุทธรณ์วงจรที่ 5 ของสหรัฐฯ ในนิวออร์ลีนส์ ซึ่งในปี 2022 พบว่ากระบวนการพิจารณาคดีดังกล่าวละเมิดสิทธิ์การแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่เจ็ดของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ในการพิจารณาคดีของคณะลูกขุน ผู้สนับสนุน Jarkesy และกลุ่มอนุรักษ์นิยมและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ได้วิพากษ์วิจารณ์ระบบภายในของ SEC โดยอ้างว่าทําให้หน่วยงานได้เปรียบในการดําเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

ศาลฎีกาซึ่งมีเสียงข้างมากอนุรักษ์นิยมได้พิจารณาคําอุทธรณ์คําตัดสินของวงจรที่ 5 ซึ่งนําโดยฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจไบเดน ในระหว่างการพิจารณาคดีในเดือนพฤศจิกายนผู้พิพากษาอนุรักษ์นิยมแสดงความสงสัยต่อความถูกต้องตามกฎหมายของระบบภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการไม่มีคณะลูกขุนในกรณีของการฉ้อโกงซึ่งโดยทั่วไปจะต้องใช้ในศาลของรัฐบาลกลาง

การตัดสินใจจํากัดหรือยกเลิกระบบศาลภายในของ ก.ล.ต. อาจไม่เปลี่ยนแปลงการดําเนินงานของ ก.ล.ต. มากนัก เนื่องจากหน่วยงานได้ลดการพึ่งพาผู้พิพากษาภายในองค์กรลงแล้วตามคําตัดสินของศาลฎีกาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 ที่ถือว่ากระบวนการแต่งตั้งผู้พิพากษาของ ก.ล.ต. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม คําตัดสินล่าสุดของศาลฎีกาอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อหน่วยงานอื่นๆ เช่น สํานักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม กรมแรงงาน และคณะกรรมการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้ผู้พิพากษาภายในองค์กร การไม่สามารถใช้ศาลเหล่านี้อาจทําให้การดําเนินการบังคับใช้ช้าลงต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อความสามารถของหน่วยงานในการดําเนินการตามการกระทําผิด

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน