โดย Zhang Mengying
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเช้าวันพฤหัสบดีในตลาดเอเชีย เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องอุปทานทั่วโลกที่มีมากกว่าปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐฯ
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.36% เป็น 112.84 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 01:45 น. ET (5:45 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 0.22% เป็น 110.02 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าวในหมายเหตุว่า “ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงแรกหลังจากรายงานข้อมูลคลังน้ำมัน โดยมีการเพิ่มปริมาณผลผลิตเข้าคลังโดยโรงกลั่นที่เพิ่มปริมาณผลผลิตท่ามกลางมาร์จิ้นการผลิตที่สูงเป็นประวัติการณ์”
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ จาก EIA ที่เผยแพร่ในวันพุธแสดงให้เห็นว่ามีปริมาณเบิกถอนน้ำมันที่ 2.762 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มิถุนายน ในขณะที่ตัวเลขน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์บางคนคิดว่าความไม่สงบทางการเมืองของประเทศผู้ผลิตอย่างลิเบียและเอกวาดอร์ อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันได้
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันต่อราคาที่เพิ่มขึ้น
“การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเมื่อเร็ว ๆ นี้และการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกได้กดดันตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาดเชื่อว่าจะมีการเบิกจ่ายน้ำมันสำรองของสหรัฐฯ มากขึ้น และการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันของ OPEC ยังช่วยหนุนโมเมนตัมขาขึ้นของตลาดน้ำมันอีกด้วย” ทีน่า เต็ง นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวกับรอยเตอร์ส
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อน แสดงให้เห็นการเบิกจ่ายน้ำมันออกจากคลังที่ 3.799 ล้านบาร์เรล