InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้า ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.73 บาท/ดอลลาร์ เย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า โดยระหว่างวันอ่อนค่าไปถึง 34.92 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็ง ค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และประมาณการ GDP ไตรมาส 4/2565 (ประมาณการครั้งที่ 2) นอกจากนี้ ประธานเฟดในบางสาขา ยังคงสนับสนุนแนวนโยบายให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับดอกเบี้ยในอัตราที่แรงขึ้น อย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ภายในปีนี้ นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาท มีโอกาสจะแตะ 35 บาท โดยให้ในกรอบเบื้องต้นที่ 34.60-35.00 บาท/ ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.08/09 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 134.73 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0591/0593 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0599 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,634.02 จุด ลดลง 18.45 จุด (-1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 67,192 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,114.17 ลบ.(SET+MAI) - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะไม่ปรับครม. แม้จะรัฐมนตรีว่างลง 2 ตำแหน่ง คือ รมช.คมนาคม และรมช.ศึกษาธิการ เนื่องจากเห็นว่าระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลเหลือไม่มากแล้ว อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลต่างไม่เห็นด้วยที่จะมีการ ปรับ ครม. เพราะมองว่าไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เตรียมตัดสินใจดึงอำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับระบบการเงินจีน มาอยู่ภายใต้การควบคุม ของตนเอง โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการรื้อฟื้นคณะกรรมมาธิการด้านการคลัง ที่ถูกยุบไปก่อนหน้านี้กลับมาอีกครั้ง เพื่อช่วยประสาน นโยบายทางการเงิน และอาจแต่งตั้งพันธมิตรหลักขึ้นตำแหน่งสูงสุดของธนาคารกลางจีน - รมว.คลังสหรัฐ เชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสที่จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้อย่างราบรื่น โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง (soft landing) จากอานิสงส์ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและการที่สหรัฐไม่มีปัญหา ด้านงบดุล เหมือนในช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกครั้งที่แล้ว - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อภาคอุตสาหกรรมที่สนับสนุนสงครามรัส เซียในยูเครน ในระหว่างการประชุมออนไลน์กับผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 ในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบหนึ่งปีการรุกรานยูเครนของรัส เซีย - คืนนี้ สหรัฐจะมีการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. ต่อด้วยยอดขายบ้านใหม่ เดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน - นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความ สำคัญ โดยดัชนี PCE สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่า ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - สัปดาห์หน้า สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ยอดทำสัญญาขาย บ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จาก Conference Board, ดัชนีผู้ จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.พ. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นต้น