Investing.com - ดัชนีภาคกิจการบริการประจำเดือนที่แล้วของสหราชอาณาจักรหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปี อีกทั้งสถานการณ์ Brexit ที่ยังคลุมเครืออยู่ในขณะนี้ก็ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง จ่อให้เกิดการชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี
บริษัทผู้ทำการวิจัย IHS Markit ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคกิจการบริการ ลดลงสู่ 48.9 ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นค่าดัชนีที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2016 และต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งเป็นระดับที่แบ่งแยกสภาวะขยายตัวและหดตัว
“ดัชนีภาคกิจการบริการที่ลดลงแสดงให้เห็นว่า GDP ของสหราชอาณาจักรในเดือนมีนาคมหดตัวลง เนื่องด้วยเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวตลอดทั้งไตรมาสที่หนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่จะฉุดให้เกิดการชะลอตัวอย่างหนักหน่วงขึ้นอีกในอีกหลายเดือนข้างหน้า" หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก IHS Markit นายคริส วิลเลียมสัน ได้กล่าวไว้ในรายงานข่าว
และรายงานข่าวยังระบุอีกว่า บริษัทต่าง ๆ เลือกที่จะเลื่อนการตัดสินใจอนุมัติรายจ่ายต่าง ๆ ไปก่อนเนื่องมาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ตึงเครียด ขณะที่บางรายงานยังเผยว่าความกังวลจาก Brexit ที่ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจก็ทำให้รายจ่ายภาคครัวเรือนซบเซาลงเช่นกัน
จากการเผยข้อมูลเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ตัวเลขดัชนีที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างก็เกิดการหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เนื่องจากความคลุมเครือของสถานการณ์ Brexit มีส่วนยับยั้งการตัดสินใจในการลงทุน
ส่วนดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนมีนาคมก็ออกมาสูงขึ้นสู่ระดับที่สูงสุดในรอบ 13 เดือน แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างก็ย้ำเตือนว่าการพลิกฟื้นดังกล่าวเกิดจากการตุนสินค้า ก่อนหน้าที่จะเกิดอุปสรรคทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจาก Brexit
“เป็นไปได้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก จะกลายเป็นภาวะถดถอยในไตรมาสที่สอง นอกเสียจากอุปสงค์จะพลิกฟื้นขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนหากพิจารณาจากความเข้มข้นของสถานการณ์ Brexit ล่าสุด" นายวิลเลียมสันกล่าว
เขาเสริมว่า ปัจจุบันนี้ที่ผลคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในปี 2019 อยู่ที่ 1.3% นั้น "มองโลกในแง่ดีเกินไป ในขณะนี้ IHS Markit คาดว่าในปี 2019 จะมีการเติบโตเพียง 0.8% และตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าเป็นการคาดหวังอย่างสูงมาก เพราะ Brexit ยังคงไม่มีความคืบหน้าใด ๆ"
แต่ยังมีอีกหลายความเห็นที่ไม่เห็นด้วย
นายแซมวล ทูมบ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สหราชอาณาจักรจาก Pantheon Macroeconomics ได้ระบุผ่าน Twitter ว่า "โปรดอย่าลืมว่าดัชนี PMI ครอบคลุมเพียงแค่พื้นที่เศรษฐกิจเพียง 70% ของ GDP (ยอดค้าปลีก ไม่รวมกลุ่มหน่วยงานรัฐและกลุ่มนอกภาคการผลิต) และดัชนีดังกล่าวมักจะมีค่าต่ำลงในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมือง" และเขายังเสริมอีกว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร "ประสบปัญหาอย่างเห็นได้ชัด แต่การเติบโตของ GDP น่าจะไม่ชะลอตัวจนถึงศูนย์ในไตรมาสที่หนึ่ง"
.
เดิมทีสหราชอาณาจักรมีเป้าหมายในการถอนตัวจากสหราชอาณาจักรในวันที่ 29 มีนาคม แต่กลับมีการเลื่อนเส้นตายออกไปยังวันที่ 12 เมษายน เพื่อยื้อเวลาให้รัฐสภามีเวลามากขึ้นในการอนุมัติข้อตกลงการถอนตัวที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี นางเธเรซา เมย์ เป็นผู้เจรจา