โดย Ambar Warrick
Investing.com – ขณะนี้ตลาดการเงินกำลังกำหนดความเป็นไปได้สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 100 จุดพื้นฐานโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า หลังจากอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนสิงหาคม
ตามข้อมูลที่ได้จาก เครื่องมือ Fedwatch ของบริษัท CME Group's เทรดเดอร์ได้เริ่มกำหนดโอกาส 35% ที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเต็มเปอร์เซ็นต์ ในระหว่างการประชุม วันที่ 21 กันยายน ส่วนที่เหลืออีก 65% คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 75 จุดพื้นฐาน
ขณะนี้เทรดเดอร์ดูเหมือนจะเลิกคิดแล้วว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐาน หลังจากข้อมูลในวันอังคารแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค สหรัฐฯ ผ่อนคลายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนสิงหาคม
ข้อมูลบ่งชี้ว่าในขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ กำลังจะหลุดจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนมิถุนายน แต่มีแนวโน้มว่าสหรัฐฯ จะต้องใช้เวลานาน กว่าจะถึงอัตราเป้าหมายของเฟดที่ 2% ธนาคารกลางคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะถึงเป้าหมายดังกล่าว
ตลาดยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของสหรัฐฯ จะสิ้นสุดปีเหนือ 4% ซึ่งจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดพื้นฐานอีกสองครั้ง ตามด้วยการขึ้นดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีปี
“ขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษและการที่ไม่ยอมลดลงง่าย ๆ ของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทำให้ตลาดเปลี่ยนความคาดหวังสำหรับอัตราในประเทศสูงถึง 4-4.25% จากเดิม 3.75-4% ก่อนการรายงานเงินเฟ้อเสียอีก” นักวิเคราะห์จาก ING เขียนไว้ในบันทึกย่อ แต่ธนาคารยังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะสิ้นสุดปีที่ 4%
การอ่านค่า CPI ของเดือนสิงหาคมทำให้เกิดการเทขายอย่างหนักในตลาดการเงินในวันอังคาร โดยดัชนีในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงระหว่าง 3.9% ถึง 5.2% ซึ่งได้กระทบเซสชั่นเอเชียในวันพุธเช่นกัน
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนหลังรายงาน ขณะที่ค่าเงิน ดอลลาร์ อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว