โดย Ambar Warrick
Investing.com – ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่น (CPI) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีในเดือนก.ค. ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้น
อัตรา ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานแห่งชาติของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเป็น 2.4% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม เทียบกับ 2.2% ในเดือนมิถุนายน ข้อมูลจากสำนักสถิติเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ โดยรายงานตัวเลขเป็นไปตามที่คาดหวัง
และยังเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันที่ดัชนี CPI ได้เกินเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง เมื่อรวมรายการที่มีความผันผวน เช่น ค่าอาหารสด ส่งให้ CPI พื้นฐานแห่งชาติ ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนกรกฎาคม แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบแปดปี
ญี่ปุ่นประสบปัญหาราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากต้องพึ่งพาการนำเข้าปิโตรเลียม ถ่านหิน และของเหลว อย่าง ก๊าซธรรมชาติ เป็นจำนวนมาก แนวโน้มนี้ทำให้เห็นว่าประเทศมีการ ขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้นได้ชดเชยการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ยังคงลังเลที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยต่อสู้กับเงินเฟ้อ และจนถึงขณะนี้ก็ยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของโควิด19
ในการประชุมครั้งก่อน BoJ ได้เพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันเป็น 2.3% จาก 1.9% นอกจากนี้ยังลดการคาดการณ์การเติบโตของปีเป็น 2.4% จาก 2.9% โดยธนาคารกลางยังได้กล่าวเตือนถึงแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากการระบาดใหญ่และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น
BoJ ยอมรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกจากธนาคารกลางรายใหญ่อื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงิน เยนญี่ปุ่น อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ ค่าเงินเข้าใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อต้นปี 2022
เงินเยนเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในวันศุกร์หลังจากการเปิดเผยของข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ โดยอยู่ที่ประมาณ 135.81 ต่อดอลลาร์
แต่เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจผ่อนคลายลงบ้างในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมากจากระดับสูงสุดในปีนี้ ความไม่แน่นอนของแผนการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังส่งผลดีต่อเงินเยนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย