Investing.com - สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีนได้เผยข้อมูลเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขการส่งออกของจีนประจำเดือนเมษายนออกมาต่ำกว่าผลคาดการณ์ และภาวะเกินดุลการค้าก็ต่ำลงอย่างไม่เป็นที่น่าพอใจเช่นเดียวกัน
ภาวะเกินดุลการค้า ของเดือนเมษายนอยู่ที่ 1.384 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่คาดไว้ถึง 3.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังต่ำกว่าดุลการค้าเมื่อเดือนมีนาคมที่เกินมาถึง 3.265 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย
ส่วน ตัวเลขการส่งออกจีน ในเดือนเมษายนก็ดิ่งลง 2.7% จากปีที่แล้ว ต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 2.3%
Capital Economics ระบุไว้ในรายงานการวิจัยที่สำนักข่าวรอยเตอร์หยิบยกมารายงานดังต่อไปนี้ "สถานการณ์ของตัวเลขการส่งออกจีนขณะนี้มีความยากลำบากอย่างมาก หากทรัมป์เดินหน้าตามคำข่มขู่ของเขาจริงด้วยการขึ้นภาษีศุลกากร เราเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้การเติบโตด้านการส่งออกลดลงราวสองถึงสามเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว"
ประเด็นใหญ่ของสัปดาห์นี้คือความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ภายหลังจากที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าวันศุกร์นี้สหรัฐฯ จะเพิ่มการเก็บภาษีศุลกากรสินค้าจีนจากเดิม 10% เป็น 25% โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวไว้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่าความคืบหน้าของการเจรจาทางการค้านั้น "เริ่มเชื่องช้าเกินไป" และในขณะเดียวกัน คณะรัฐบาลสหรัฐฯ เองก็กล่าวโทษจีนว่าไม่ยอมทำตามข้อตกลงทางกฎหมายบางประการ อันเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสามารถทำให้เกิดการสรุปข้อตกลงได้
ทางด้าน ตัวเลขการนำเข้าของจีน กลับขยายตัวขึ้นเกินคาดที่ 4% เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 3.6%
การเกินดุลการค้าของจีนต่อสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 2.101 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนเมษายน จาก 2.05 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา