กระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า ประเทศไทยมีแผนจะใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท (629.52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ตามรายงานของรอยเตอร์
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภค การท่องเที่ยว และช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ โดยจะยื่นเสนอเพื่อบังคับใช้ภายในเวลาสองสัปดาห์ต่อจากนี้
นายอภิศักดิ์ได้ระบุอีกว่า รัฐบาลคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่หนึ่งและไตรมาสที่สองของปีนี้จะชะลอตัวอยู่ที่ราว 3 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจาก 3.7 เปอร์เซ็นต์ของไตรมาสที่แล้วในปี 2018
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อย่างเป็นทางการประจำไตรมาสแรกมีกำหนดการเผยแพร่ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพารายได้จากการค้าเป็นหลักนั้นได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยและนักลงทุนในตลาดหุ้นยังคงรอคอยการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา