โดย Scott Kanowsky
Investing.com -- การเติบโตของราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ เร่งตัวเป็นรายเดือน ในเดือนมกราคม ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มองหาเบาะแสว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดกำลังดำเนินการเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ข้อมูลของกระทรวงแรงงานในวันอังคารแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เพิ่มขึ้น 0.5% จาก 0.1% ในเดือนธันวาคม ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน ดัชนีหลัก ซึ่งไม่รวมพลังงานและอาหารเพิ่มขึ้น 0.4%
ดัชนีราคาผู้บริโภค รายปี สำหรับเดือนนี้ลดลงเหลือ 6.4% จาก 6.5% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เจ็ดติดต่อกันที่การขยายการชะลอตัว นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่
ตัวเลขหลักปีต่อปี อยู่ที่ 5.6% ลดลงจาก 5.7% ในเดือนก่อนหน้า และแซงหน้าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 5.5% ตัวเลขที่อ้างอิงนั้นได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยผู้สังเกตการณ์ทางเศรษฐกิจหลายคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของเฟด ซึ่งเชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวให้การประเมินทิศทางเงินเฟ้อในอนาคตที่แม่นยำยิ่งขึ้น
เฟด ได้เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมอย่างจริงจังจากระดับใกล้ศูนย์จนถึงช่วงเป้าหมายระหว่าง 4.5% ถึง 4.75% ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ตั้งเป้าที่จะลดราคาที่พุ่งสูงขึ้น แม้จะเปิดเผยการปรับขึ้น 25 จุดพื้นฐานในการประชุมนโยบายครั้งล่าสุด แต่ประธานเฟดเจอโรม เพาเวลล์ได้เตือนว่าอัตราอาจต้องอยู่สูงขึ้นไปอีกสำหรับข้อมูลระยะยาวที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวได้
ความตึงตัวนี้พร้อมกับสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดและค่อย ๆ ลดลงกลับมาที่ระดับ 2% ของเฟด ได้จุดประกายความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจสามารถหลบเลี่ยงภาวะถดถอยได้ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่เฟดเตือนว่าผลลัพธ์นี้ยังห่างไกลจากความแน่นอน