โจรได้ทำการใช้ Face ID ของเหยื่อเพื่อปลดล็อคกระเป๋าคริปโตของเขาและทำการโอนเงินไปยัง Address ของตนเอง สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่า โจรได้ทำการใช้ Face ID ของเหยื่อซึ่งเป็นนักลงทุนคริปโตและทำการโอนเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์ไปยัง Address ของเขาเมื่อวันที่ 1 มกราคม โจรได้พบกับนักลงทุนในงานมีตติ้งของนักลงทุนคริปโต และหลังจากจบงาน โจรได้ทำการตามเหยื่อไปที่ลานจอดรถและขังเขาไว้ในรถ จากนั้นโจรได้บังคับให้เหยื่อใช้ Face ID เพื่อปลดล็อคโทรศัพท์และกระเป๋าคริปโตของเหยื่อ หลักจากนั้นโจรก็ได้ขายคริปโตเป็น USDT และโอนไปยังกระเป๋าของเขารวมทั้งสิน 4.1 ล้าน USDT เมื่อโอนเงินเสรจโจรก็ได้ออกจากที่เกิดเหตุ และนักลงทุนรายดังกล่าวก็ได้แจ้งความกับตำรวจ การดำเนินการทางกฏหมาย กรอบกฏหมายของจีนยอมรับว่า Bitcoin เป็น “สินค้าเสมือน” ซึ่งหมายความว่ามันสามารถประเมินค่าได้และสามารถถูกขโมยได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยีคริปโตยังถูกกำหนดให้เป็น “ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่สามารถประเมินค่าได้” ซึ่งอยู่ภายใต้ของเขตของระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฏหมาย ตามกรอบกฏหมายดังกล่าว แม้ว่าคริปโตจะถูกแบนในประเทศจีน แต่ผู้โจมตีหรือโจรก็ยังถือว่าเป็นขโมย โดยทางอัยการได้ออกหมายจับผู้โจมตีและตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 4 ปี และปรับ 10,000 หยวน หรือประมาณ 1,462 ดอลลาร์ หรือจำคุกเป็นเวลา 2 ปีและปรับ 6,000 หยวน หรือประมาณ
กดอ่านข่าว โจรชาวจีนขโมยขโมยเงินคริปโตมูลค่า 138 ล้านบาทจากเหยื่อคารถ ต่อที่ Siam Blockchain