อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่าในปี 2022 นี้ตลาดคริปโตไม่ได้เป็นใจเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของเครือข่ายยอดนิยม Terra จนทำให้ลุกลามไปจนถึงการล้มละลายของบริษัทคริปโตระดับโลกหลายแห่ง นอกจากนั้นราคาของเหรียญพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ก็ร่วงลงอย่างรุนแรงจนปัจจุบันอยู่ในระดับที่ 20,000 – 21,000 ดอลลาร์ ซึ่งสิ่งนี้ก็ทำให้นักลงทุนหลายคนมองว่านี่อาจจะคือจุดจบของตลาดคริปโตหรือเปล่า เพราะว่าตลาดคริปโตนั้นอยู่ในช่วงตลาดหมีมาอย่างยาวนาน และทุกครั้งที่มีทีท่าว่าราคาจะเบรคเทรนด์แนวโน้มขาลงแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นแค่เพียงราคาที่พุ่งขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น และด้วยเพราะสภาพของตลาดที่เป็นเช่นนี้ ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคริปโตหลายแห่งประสบปัญหาด้านการเงินเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าบริษัทหลายแห่งก็เลือกที่จะเกณฑ์คนออก และลดการจ้างงานของพนักงานในบริษัทลง โดยวันนี้ทางสยามบล็อกเชนเองก็มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณชาร์ลี คูเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารของ R3 ซึ่งเป็นบริษัท ผู้นำเสนอเทคโนโลยีและบริการเพื่อวิสาหกิจ สำหรับการพัฒนาโซลูชันที่ใช้งานกับธุรกิจหลายฝ่ายซึ่งเอื้อให้เกิดการประสานความร่วมมือด้านดิจิทัล Siam Blockchain : ในช่วงขาลงของธุรกิจเทรดดิ้งทุกวันนี้ คุณชาร์ลี คูเปอร์ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการลดอัตราการจ้างงานของบริษัทคริปโตหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มขนาดเล็กอย่าง BlockFi Inc ไปจนถึงแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง Crypto.com? คุณชาร์ลี : นับเป็นเรื่องน่าเสียดายที่การลดอัตราการจ้างงานกำลังกลายเป็นเรื่องปกติของบริษัทคริปโตหลายแห่ง แม้หลายบริษัทจะอ้างเหตุผลว่าเป็นการปรับปรุงต้นทุนการดำเนินงาน แต่การปลดพนักงานในปัจจุบันและระงับการว่าจ้างพนักงานใหม่มีแต่จะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีแก่บริษัท เมื่อพิจารณาในระยะยาว บริษัทอาจเกิดความเสียหายในด้านชื่อเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครงานพากันเลี่ยงไม่มาสมัครงานที่บริษัทเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวในอนาคต ในขณะเดียวกัน พนักงานในปัจจุบันก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ดีเหมือนเดิมเพราะถูกครอบงำด้วยความวิตกกังวลถึงความมั่นคงในอาชีพการงาน สิ่งเหล่านี้อาจเกิดวนเวียนซ้ำซากและท้ายที่สุดจะกระทบต่อความสามารถของบริษัทในการดึงดูดกลุ่มคนที่มีความสามารถขั้นสูง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แย่มากต่อการดำเนินงานของบริษัทในระยะยาว ผมเชื่อว่าช่วงขาลงของตลาดในปัจจุบันไม่เหมือนกับภาวะฟองสบู่ดอตคอมในปี 2000 หรือสภาวะตลาดล้มในปี 2009 แต่มันเหมือนกับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ขับเคลื่อนให้เกิดอินเทอร์เน็ต ซึ่งพยายามก้าวผ่านการล่มสลายและเกิดการพัฒนาครั้งสำคัญที่สุดจนกลายมาเป็นอินเทอร์เน็ตที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ ผมมั่นใจว่าบล็อกเชนจะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ว่ามีความสามารถในการปรับตัวได้ดีเช่นเดียวกัน
กดอ่านข่าว บทสัมภาษณ์พิเศษ : “วิธีรับมือตลาดคริปโตในปัจจุบัน” กับคุณชาร์ลี คูเปอร์ COO ของบริษัท R3 ต่อที่ Siam Blockchain