การลงทุนของ Tesla (NASDAQ:TSLA) ในตลาด Bitcoin เมื่อต้นปีนี้ได้จ่ายผลกำไรก้อนโตซึ่งมีมูลค่าสูงถึงพันล้านดอลลาร์หากเทียบกับราคาของบิตคอยน์ในปัจจุบัน Elon Musk ได้นำบริษัทของเขาไปเสี่ยงโชคครั้งใหญ่โดยการกว้านซื้อ Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่ BTC ซื้อขายกันในโซนราคาต่ำสุดที่ 30,000 ดอลลาร์ แม้ว่าในเวลาต่อมา Tesla ได้ทำการขาย Bitcoin ประมาณ 10% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งทำให้รายรับของไตรมาสที่ 2 นี้เพิ่มขึ้น 272 ล้านดอลลร์ และยังคงถือครองต่อประมาณ 43,200 BTC ตามข้อมูลของ BitcoinTreasuries แม้ว่าตอนนี้จะมี BTC ที่อยู่ในการถือครองเพียง 2.8 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็ทำให้บริษัทมีกำไรที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น 1.3 พันล้านดออลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่เติบดตขึ้นกว่า 86% นับตั้งแต่การซื้อครั้งแรกในครั้งนั้น ทั้งนี้ Tesla เป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก MicroStrategy ซึ่งถือ 114,041 BTC หรือมูลค่ารวมประมาณ 7.4 พันล้านดอลลาร์ ณ ราคาปัจจุบัน ยังไม่มีการซื้อในไตรมาสที่ 3 ตามรายงานทางการเงินประจำไตรมาสที่สามรายได้รวมของ Tesla เพิ่มขึ้น 57% เมื่อเทียบเป็นรายปี และมีรายงานรายรับกว่า 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้มีกำไรขั้นต้น 3.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบปีต่อปี น่าสังเกตว่าในขณะนี้ยังไม่มีการซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม แม้ว่าบริษัทกำลังพิจารณาเงินกว่า 51 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สามเพื่อเพิ่มการถือครอง BTC ที่มีอยู่ กฎการบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลระบุว่าหากราคาของสินทรัพย์ลดลงในระหว่างไตรมาส บริษัทต้องรายงานว่ามีการด้อยค่า อย่างไรก็ตามหากราคาเพิ่มขึ้นจะไม่ถูกรายงานเป็นกำไรในงบดุล ไตรมาสที่ 3 น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเพิ่ม BTC ให้มากขึ้น เนื่องจากราคาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ขณะนี้ราคาเพิ่มขึ้น 116% จากระดับต่ำสุดนั้น และเพิ่งทำลายค่าสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 67,000 ดอลลาร์
กดอ่านข่าว Tesla ทำเงินได้ 1.3 พันล้านดอลลาร์จาก Bitcoin ยังไม่ได้ซื้อเพิ่มในไตรมาสที่ 3 ต่อที่ Siam Blockchain