โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com - ราคาเหรียญ Solana หรือ (SOL) ดีดแตะ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ ในคืนวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ทำให้เหรียญ Solana ขึ้นแท่นเหรียญที่มีการซื้อขายมากที่สุดอันดับ 6 ของโลก
จากตารางแสดงการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของ Investing.com ชี้ให้เห็นว่า เหรียญ Solana ขยับขึ้นแท่นแซงหน้าเหรียญ XRP โดยเหรียญ Solana ซื้อขายกันเช้านี้ (10 กันยายน เวลา 7.30) ที่ 185.76 ดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการซื้อขายที่ 54.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 12.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช้านี้ ปรับลดลง 2.73% จากเมื่อวานที่แตะ 207 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ โดยพุ่งสูงขึ้น 10 เท่า หรือ 11,400% นับตั้งแต่ Solana ยังราคาแค่ 2 ดอลลาร์ต่อเหรียญในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ในขณะที่ราคา Bitcoin ยังปรับฐาน โดยซื้อขายเช้านี้ (10 กันยายน เวลา 7.30) อยู่ที่ 46,496 ดอลลาร์สหรัฐรัฐต่อเหรียญ และมีมูลค่าตลาด 873.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปริมาณการซื้อขายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 38.44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบวกเพิ่ม 0.19% ซึ่งจะเห็นได้ว่า ราคา Bitcoin ยังเกาะเหนียวแน่นในช่วง 46,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
เหรียญ Solana ยังเป็นกระแสในหมู่นักเล่นเหรียญได้เรื่อย ๆ หลังราคาดีดขึ้นแบบก้าวกระโดดติดต่อกันหลายวัน ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งช่วงที่ Solana ขยับขึ้นแทนที่ Dogecoin ที่เคยขึ้นเป็นอันดับ 6 ในช่วงกลางปี ก็ทำให้นักลงทุนเห็นศักยภาพของเหรียญที่จะไต่ระดับไปได้ไกลกว่านี้
ทั้งนี้ มองกันว่า การที่ Solana เข้าสู่ภาวะกระทิงอาจมีปัจจัยเริ่มต้นมาจากการที่นักลงทุนอย่าง แอนเดอร์เอสเซน โฮโรวิทซ์ และโพลีเชนพากันลงทุนใน Solana ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้น มีการระดมทุนได้ 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงต่อยอดเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริการทางการเงินแบบไร้ตัวกลาง (DeFi) ซึ่งที่น่าสังเหตุคือ การลงทุนครั้งนี้ เป็นการลงทุนซื้อเหรียญ SOL โดยตรง โดยไม่ได้ซื้อผ่านหุ้นของบริษัทเหมือนที่นักลงทุนส่วนใหญ่ทำกันมา
และอีกปัจจัยที่ทำให้การซื้อขาย Salona เป็นไปได้ด้วยดีก็มาจาก การประกาศเปิดตัวงาน Hackathons ครั้งที่ 4 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 ตุลาคม 2564 โดยผู้ร่วมงานจะเน้นกลุ่มนักพัฒนาเหรียญ โดยแต่ละคนจะต้องมีโครงการที่จะพัฒนาอยู่แล้วในมือและเอาเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว ผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเงินสดกลับไปพร้อมกับโอกาสที่จะได้เงินอีกก้อนเล็ก (Seeding) ไปต่อยอดพัฒนาโครงการของตัวเอง ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นการสร้างปัจจัยบวกให้กับ Solana เพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากจะมีการต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเหรียญและเพิ่มฐานผู้ใช้ได้อีกในอนาคต
เหรียญ Solana เป็นที่รู้จักกันที่ ช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมให้ต่ำลงมาก ๆ และในขณะที่ การทำธุรกรรมก็สามารถทำได้เร็ว ประกอบการราคาที่โตแบบก้าวกระโดดในครั้งนี้ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมองว่า คู่แข่งอย่าง Ethereum อาจจะไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ Solana ในอนาคต ทางด้านนักลงทุนบางรายถึงกับเรียก Solana ว่า เป็น “นักฆ่า Ethereum” เลยก็มี และ Solana เองก็กำลังจะแข่งกับเหรียญอื่น ๆ ด้วย เช่น Tether (USDT), Binance Coin (BNB) และ Cardano (ADA) ถึงจะเข้าไปประชิด Ethereum ได้
Solana เป็นเหรียญแบบไหน
Solana เป็นเหรียญที่ทำให้นักลงทุนมีการทำธุรกรรมด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ทำได้รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง ดังนั้น จึงเป็นที่นิยมอย่างมาก และอย่างที่ทราบคือ เป็นเหรียญคู่แข่งของ Ethereum เลยก็ว่าได้ Solana สามารถนำมาใช้กับ Smart Contract
Solana ถือกำเนิดขึ้นในปี 2017 โดยนายอะนาโตลี ยาโคเวนโก อดีตผู้จัดการฝ่ายบุคคลากรด้านวิศวกรรมของบริษัท Qualcomm เป็นผู้ก่อตั้ง โดยมีการสร้างและพัฒนาเครื่องมือและเครือข่ายต่าง ๆ มากมาย เพื่อรองรับกับโครงการต่าง ๆ ที่เข้ามาสร้างแพล็ตฟอร์มบน Solana ซึ่งรวมไปถึงโปรโตคอลอย่าง Metaplex เพื่อใช้รองรับ NFT หลังจากนั้น 2 ปี Solana ก็สามารถระดมทุนได้ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงระดมทุน Series A โดย Multicoin Capital
Solana จะฆ่า Ethereum ได้จริงหรือ
ปัจจุบัน Ethereum ก็ยังได้รับความนิยมในการสร้างแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีตัวกลาง สร้างอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งเป็นเครือข่ายแบบ Peer-to-peer ทำให้แอพพลิเคชั่นเหล่านี้ไม่ถูกควบคุมหรือถูกยกเลิกได้โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และ Smart Contract แต่เนื่องจาก Ethereum ยังไม่สามารถที่จะขยายพัฒนาเทคโนยีต่อยอดได้เพิ่มได้อีก ทางเลือกใหม่ของตลาดก็เป็น Solana และนอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บน Ethereum ก็ยังสูง Solana ซึ่งถูกกว่าและเร็วกว่า ก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับตลาดแทน
นอกจากนี้ หากวิเคราะห์โครงสร้างภายในแล้ว Ethereum นับเป็นเน็ตเวิร์กชั้นเยี่ยมเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น ๆ ด้วยมี Nodes อยู่ราว 7,000 ราย และมีผู้ตรวจสอบอยู่ประมาณ 90,000 ราย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า Solana ที่มี Nodes อยู่ราว 600 และผู้ตรวจสอบอีก 1,000 คน แต่กระนั้น Solana ก็ยังมีข้อดีตรงที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยอุดช่องโหว่ที่ Ethereum มี นอกจากนี้ ผู้ตรวจสอบของ Solana ยังมีความเป็นอิสระกว่าในการตรวจสอบธุรกรรมต่าง ๆ จึงทำให้ระบบการตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว และ Nodes ของ Solana เองก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของการประทับเวลาต่าง ๆ ของแต่ละธุรกรรม จึงทำให้การตรวจสอบย่นระยะเวลามากขึ้น ดังนั้น Solana จึงสามารถทำธุรกรรมได้ถึง 60,000 รายการต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่า Etheruem, Bitcoin, Visa และ XRP เป็นอย่างมาก
Etheruem จะขยับหนี Solana ได้หรือไม่ และระยะยาวจะเป็นอย่างไร
เป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนยังต้องการทราบว่า Solana จะสามารถขึ้นแท่นแทน Ethereum หรือ Altcoins ทั้งหมด ได้หรือไม่ กระนั้น ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า เราจะยังไม่ได้เห็นการพัฒนาใหม่ ๆ หรือ Ethereum 2.0 ในเร็ววันนี้ หรือแม้แต่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็ตาม เนื่องจาก กำหนดการอัพเกรดของ Ethereum น่าจะช่วงปลายปี 2021 หรือต้นปี 2022 และเชื่อกันว่า หลังจากอัพเกรดแล้ว Ethereum จะสามารถให้บริการธุรกรรมด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลง และสามารถทำได้เร็วถึง 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที หรือมากกว่านั้น เลยทีเดียว
แม้โครงสร้างของ Solana ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานได้ลื่นไหลและสามารถปรับให้ทำงานได้เร็วขึ้นได้ นั่นก็ยังต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่า คอมพิวเตอร์ในยุคนั้นต้องทำงานได้เร็วขึ้นด้วย แล้ว Solana เองก็จะทำธุรกรรมได้เร็วตามด้วยเช่นกัน มองกันว่า สำหรับ Solana แล้ว ยังเป็นเหรียญที่มีอนาคตที่สดใส และได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ในอนาคตก็ยังจะไปได้ไกลจริง ๆ