แม้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ราคา Bitcoin นั้นจะร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 42,000 ดอลลาร์ แต่หลายคนเชื่อว่านี่เป็นเพียงแค่สัญญาณของช่วงขาลงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ Saudi Aramco บ่อขุดน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดิอาระเบียได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าพวกเขาจะผันตัวมาขุด Bitcoin อย่างไรก็ตามนักเทรดชั้นนำในกระดานแลกเปลี่ยนได้ฉวยโอกาสนี้ในการเปิด Long Position เพิ่มเติม ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน นอกจากนี้นักเทรดมาร์จิ้นยังมีอัตราการกู้ยืมเหรียญ Stablecoin เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งชี้แล้วว่านักลงทุนรายใหญ่และนักเทรดมืออาชีพต่างคาดหวังกันว่า ตลาดคริปโตจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ตัวชี้วัดจากเว็บเทรด OKex แสดงให้เห็นว่า นักเทรดชั้นนำได้มีการเปิดออเดอร์ Long Postion เพิ่มมากขึ้นจากระดับ 0.68 ในวันที่ 31 กรกฎาคมเป็น 1.16 ในอีกสองวันต่อมา ซึ่งตัวเลข 0.68 นี้หมายความว่านักเทรดส่วนใหญ่ได้มีการเปิด Long Postion น้อยกว่า Short Position ในสัดส่วนอยู่ที่ 32% แต่ในวันที่ 2 สิงหาคมตัวชี้วัด long-to-short นี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.16 บ่งชี้ให้เห็นว่านักเทรดเปิด Long Postion มากกว่า Short Position ถึง 16% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น แม้ว่าราคา Bitcoin นั้นจะร่วงลดลงต่ำกว่าระดับ 40,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางรู้ได้ว่านักเทรดจะทำปิดออเดอร์ short หรือเปิด long เพิ่มเติมหรือไม่ แต่สิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวนี้ดีขึ้น เราต้องใช้ข้อมูลการกู้ยืมมาร์จิ้นเข้ามาสนับสนุน ข้อมูลเชิงลึกของตลาดกู้ยืม โดยปกติแล้ว นักลงทุนจะสามารถกู้ยืมสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเพิ่มประโยชน์ให้กับ Position การซื้อขายของตนได้ ยกตัวอย่างเช่น นักเทรดสามารถซื้อ cryptocurrency ได้โดยการกู้ยืมเหรียญ Tether (USDT) ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในอีกทางหนึ่ง มันต่างจากสัญญาฟิวเจอร์โดยสิ้นเชิง เนื่องจากความสมดุลระหว่าง Margin Long และ Short นั้นจะผันผวนอยู่เสมอ กราฟด้านบนชี้ให้เห็นว่านักเทรดได้มีการกู้ยืมเหรียญ USDT มากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากอัตราส่วนการกู้ยืมได้เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.00
กดอ่านข่าว ตัวชี้วัดเผยนักเทรดยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น แม้ราคา Bitcoin ร่วงต่ำกว่าระดับ 40,000 ดอลลาร์ ต่อที่ Siam Blockchain