ดูเหมือนว่าบริษัทเว็บเทรดคริปโตเบอร์หนึ่งของไทย Bitkub กำลังจะลุ้นเป็น Unicoin ตัวที่สองของไทย ต่อจาก “แฟลช กรุ๊ป” ที่สามารถปิดดีลยักษ์จากการระดมทุนรอบซีรีย์ D+ และ ซีรีย์ E คว้าเงินลงทุนจากกองทุนสิงคโปร์ และบิ๊กคอร์ปใหญ่ของไทย รวมกว่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท ส่งผลให้ แฟลช กรุ๊ป ก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นรายแรกของไทย 3 สตาร์ทอัพไทยจ่อขึ้นยูนิคอร์น อ้างอิงข้อมูลจากกรุงเทพธุรกิจ นายแซม ตันสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY กล่าวว่า สตาร์อัพไทย มีโอกาสเป็นยูนิคอร์นเพิ่มขึ้นแต่อาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี เพื่อสร้างการเติบโตให้มูลค่าธุรกิจไปถึงระดับ 3 หมื่นล้านบาท โดยเขามองว่า 3 ธุรกิจสตาร์ทอัพไทยในตอนนี้ที่ศักยภาพที่จะกลานมาเป็นยูนิคอร์นนั้นได้แก่ 1.ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับโลจิสติกส์ อย่างไลน์แมน และวงใน หากขยายบริการทั่วประเทศตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นรวดเร็วในช่วงโควิด-19และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพราะในตลาดนี้คู่แข่งมากและเป็นรายใหญ่ 2.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง บิทคับ หากธุรกิจนี้มีความยั่งยืนและมีโมเมนตัมเติบโตต่อเนื่องเป็นที่น่าเชื่อถือในวงกว้างได้ในอนาคต และ 3.ธุรกิจฟินเทคอย่าง ฟินโนมินา ซึ่งบริษัทให้การสนับสนุนเงินลงทุนและเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างการเติบโตเพื่อไปสู่ยูนิคอร์นธุรกิจฟินเทคตัวแรกในระยะ 2-3 ปี ข้างหน้า ด้วยปัจจัยสนับสนุนการเติบโตในช่วงโควิด-19ทำให้มีเงินลงทุนใหม่เข้ามากขึ้น นอกจากนี้ทางกรุงศรี ฟินโนเวต ยังเตรียมสนับสนุนสตาร์อัพในไทยต่อเนื่องในช่วง 2 ปีนี้ เตรียมงบลงทุนไว้ราว 3,000 ล้านบาท และมีแผนลงทุนไม่ต่ำกว่า 120 โครงการ โดยสนใจลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีโคซิสเต็มส์รถยนต์และที่อยู่อาศัย รวมถึงการศึกษา เทคโนโลยี บล็อกเชน และ Decentralized Finance (Defi) เพื่อต่อยอดธุรกิจธนาคารอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเร่งที่จะทำให้สตาร์ทอัพไทยไปเป็นยูนิคอร์นได้เร็วขึ้นนั้นอยู่ที่ภาครัฐสนับสนุนด้วยเช่นกัน ซึ่งเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าในอนาคตกฎระเบียบด้านคริปโตของไทยจะเอื้ออำนวยให้กับภาคคริปโตเคอร์ซี่มากน้อยเพียงใด
กดอ่านข่าว Bitkub ติดลิสต์บริษัทที่จ่อเป็น Unicorn รายที่สองของไทย อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ ต่อที่ Siam Blockchain