ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ คณะอนุกรรมการด้านความมั่นคงแห่งชาติการพัฒนาระหว่างประเทศและนโยบายการเงินสหรัฐฯ จะจัดให้มีการพิจารณาคดีในหัวข้อ “การจัดหาแหล่งเงินทุนของผู้ก่อการร้ายสำหรับประเทศที่ได้รับผลพ่วงจากการก่อจลาจล” บันทึกข้อตกลงของคณะกรรมการระบุว่า“ เมื่อมีการตรวจสอบบัญชีโดยธนาคารแบบดั้งเดิมและแพลตฟอร์มการชำระเงิน กลุ่มหัวรุนแรงดูเหมือนว่าจะเริ่มหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น” บันทึกข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลมีช่องทางที่เอื้ออำนวยมากมายสำหรับการจัดหาแหล่งเงินทุนจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการระดมทุน, การกุศลและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยบันทึกได้มีการยกกรณีการใช้งาน Crypcurrency สองเหตุการณ์ที่บ่งชี้แล้วว่า สกุลเงินดิจิทัลอาจมีส่วนช่วยสนับสนุนการก่อจลาจลที่เกิดขึ้นในรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 8 ธันวาคม 2020 กลุ่มหัวรุนแรงชาวฝรั่งเศสที่ฆ่าตัวตายได้โอน28.15 BTC (มูลค่า 522,000 ดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น) ไปยังกระเป๋าเงินดิจทัล 22 ใบ โดยมีหลายใบที่เป็นของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและบุคคลที่มีอิทธิพลบนโลกอินเทอร์เน็ต Bitcoin มูลค่ากว่ากว่า $ 250,000 ได้ถูกส่งไปให้กับนาย Nick Fuentes นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งอยู่ในหน่วยงานของรัฐในช่วงระหว่างเกิดการก่อจลาจล แม้ว่าเขาจะปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็ตาม แหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่ถูกอ้างถึงในบันทึกข้อตกลงนี้ก็คือ คลิปวิดีโอถ่ายทอดสดของการประท้วงในรัฐสภาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Dlive ซึ่งสตรีมเมอร์ได้รับทิปเป็นสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าประมาณ 222 ดอลลาร์ ตามเอกสารระบุว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวได้จ่ายเงินมูลค่า “หลายแสนดอลลาร์ให้กับกลุ่มพวกหัวรุนแรงนับตั้งแต่เปิดตัว” แพลตฟอร์มมีการซื้อขายไฟล์วิดีโอแบบ peer-to-peer ผ่าน BitTorrent ซึ่งตามหลักแล้วแพลตฟอร์มนี้เป็นเจ้าของโดยมูลนิธิ Tron อย่างไรก็ตามบันทึกดังกล่าวยอมรับว่า เหตุการณ์ทั้งสองเป็นหลักฐานตามสถานการณ์และ “ไม่ทราบว่ามีการใช้เงิน Bitcoin เหล่านี้เพื่อวางแผนและดำเนินการก่อการจลาจลในช่วงระหว่างการชุมนุมของทรัมป์เมื่อวันที่ 6 มกราคมหรือไม่ ?” คณะกรรมการเชื่อว่า ผู้ก่อการจลาจลในอนาคตมีแนวโน้มที่จะหันไปใช้วิธีการที่ไม่ใช่การทำธุรกรรมแบบดั้งเดิมเพื่อสนับสนุนกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของพวกเขา อย่างไรก็ตามนาย Pierre Rochard ผู้มีอิทธิพลในวงการคริปโต กล่าวโต้แย้งในทวิตเตอร์ของเขาว่า “การก่อการร้ายในประเทศเกือบทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นก่อนที่ Bitcoin จะถูกคิดค้นขึ้น และการก่อการร้ายในประเทศส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ” ในขณะเดียวนักลงทุนคริปโตอีกรายที่ใช้ชื่อนามแฝงว่า “The Crypto Monk” กล่าวว่าว่า “ถ้าหากเขาเป็นพ่อค้ายา Bitcoin จะเป็นวิธีการชำระเงินตัวเลือกสุดท้ายที่เขาจะใช้”
กดอ่านข่าว รัฐบาลสหรัฐฯ กังวลว่าคริปโตอาจถูกใช้เพื่อสนับสนุนการก่อการร้ายในประเทศที่มีจลาจล ต่อที่ Siam Blockchain