ตลอดช่วง 3 วันที่ผ่านมาปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Ethereum Blockchain มีปริมาณพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาลจนทำให้ระบบเครือข่าย Ethereum (ETH) ไม่สามารถใช้งานได้ในบางช่วง ซึ่งเกิดขึ้นที่ราคาคริปโตทั้งตลาดร่วงลงมาอย่างรุนแรง จนทำให้แพลตฟอร์มการซื้อขาย Binance ต้องปิดการถอน Ethereum ลงเป็นการชั่วคราว CTO ของบริษัทพัฒนาเครือข่าย Blockchain GroundHog Network นาย Andrew Redden ได้เปิดเผยว่าในช่วงเวลาที่ปริมาณซื้อขายบน Ethereum Blockchain พุ่งสูงขึ้น ค่าธรรมเนียมการซื้อขายก็พุ่งสูงขึ้นด้วย โดยมีนักลงทุนรายหนึ่งต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม Ethereum (ETH Gas) เพียงครั้งเดียวเป็นเหรียญ ETH จำนวน 24.9 ETH ที่มีมูลค่ากว่า $38,500 “ผมขอนำเสนอ ค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่แพงที่สุดในสัปดาห์นี้” ซึ่งค่า ETH Gas ที่สูงอาจเป็นสาเหตุที่ทำไมนักลงทุนจึงเริ่มเลือกที่จะทำธุรกรรมผ่าน DeFi UniSwap หรือย้ายการลงทุนไปยังแพลตฟอร์มอื่น อย่าง PolkaDot และ Cardano นักลงทุนคริปโตชื่อดังนาย Lark Davis คาดหวังว่าการเปิดตัว ETH2.0 จะช่วยแก้ปัญหาค่าธุรกรรมที่แพงนี้ได้ โดยเขาได้กล่าวผ่านช่อง Youtube ของเขาว่าผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum นาย Vitalik Buterin ควรเร่งรัดให้เปิดตัว ETH2.0 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนที่นักลงทุนจะโดดหนีออกจากแพลตฟอร์ม Ethereum เพราะค่าธรรมเนียมที่สูงลิ่ว “คุณควรจะเปิดตัว ETH2.0 ให้ด่วนที่สุดเลย เพราะค่าธรรมเนียม ETH ในตอนนี้มันบ้ามาก มันสูงเสียจนไม่สำคัญแล้วว่ากำไรที่เกิดขึ้นจากการลงทุนมีเท่าไร เพราะค่าธรรมเนียมมันขึ้นมาถึง 5 หลัก (สูงกว่า $10,000) แล้ว ตอนนี้มันเป็นช่วงที่เราต้องการ ETH2.0 มากที่สุด เพราะนักลงทุนกำลังจะโดดหนีจากแพลตฟอร์ม Ethereum เพราะปัญหาเรื่องราคาค่าธรรมเนียมแล้ว … ในขณะที่ค่าธรรมเนียมผ่าน UniSwap อยู่ที่ระดับ $50 เพียงเท่านั้น” ที่มา: heraldsheets.com
กดอ่านข่าว นักลงทุน DeFi รายหนึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมมูลค่า 1.15 ล้านบาท เพื่อทำธุรกรรม 0 ETH ต่อที่ Siam Blockchain