ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีเหรียญ ETH จำนวนกว่า 700,000 ETH หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์ที่โอนเข้ามาในสัญญาเงินฝากก่อนการเปิดตัวอัพเกรด ETH 2.0 ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคมเดือนหน้า โดยเมื่อวานนี้มีการฝากเหรียญเข้ามาเป็นจำนวนกว่า 260,000 ETH และเมื่อรวมกับ 200,000 ETH ที่ถูกโอนเข้ามาเมื่อวันก่อน นั้นหมายความว่ายอดฝากทั้งหมดเพิ่มขึ้นเกือบครึ่งล้าน ETH ในเวลาเพียงแค่สองวัน ยอดเงินฝากที่เพิ่มขึ้นนี้บ่งบอกถึงความต้องการ Staking ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าพวกเขาได้รับผลตอบแทนจากการ Staking ในช่วงแรกอยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปี อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการประกาศยืนยันแน่ชัดแล่วว่า ผลตอบแทนที่ผู้ตรวจสอบโหนดหรือผู้ที่มีส่วนร่วมในการ Staking จะได้รับนั้นอยู่ที่เพียง 10 % ต่อปีเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขว่าเงินเหล่านี้จะต้องถูกล็อคในสัญญาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี จนกว่าเครือข่าย Proof of Work ethereum จะเปลี่ยนผ่านไปเป็น Proof of Stake อย่างสมบูรณ์ เมื่อเราพิจารณาจากระยะเวลาการล็อคเหรียญอย่างน้อยเป็นเวลา 2 ปี นั่นหมายความว่าอุปทานของเหรียญทั้งหมด 700,000 ETH จะหายไปและได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือน และเมื่อถึงกำหนดครบอายุสัญญาแล้ว อุปทานหมุนเวียนเหรียญประมาณ 5 ETH ต่อปีที่มอบให้กับนักขุดในเครือข่าย Proof of work ก็ถูกลบออกไปในทางทฤษฏี โดยกำหนดอุปทานขึ้นใหม่เพียง 1 ล้าน ETH เท่านั้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงถึง 80% อย่างไรก็ตามตอนนี้เว็บเทรดชั้นนำอย่างเช่น Binance หรือ Coinbase นั้นยังไม่ได้มีแผนที่จะเปิดให้บริการ Staking ของ Ethereum ซึ่งน่าจะเป็นเพราะพวกเขายังคงยุ่งอยู่กับการให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ คริปโต ท่ามกลางช่วงเวลาที่มีความต้องการเหรียญคริปโตในแบบที่เราไม่เคยเห็นมานับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งถ้าหากแพลตฟอร์มชั้นนำเหล่านี้เริ่มเปิดให้บริการ Staking บนแพลตฟอร์ม ETH 2.0 เมื่อไหร่ ยอดเงินฝากอาจพุ่งขึ้นแตะระดับ 10 ล้าน ETH ได้ไม่ยาก
กดอ่านข่าว ยอด Staking เหรียญ Ethereum 2.0 พุ่งทะลุระดับ 700,000 ETH แล้ว ต่อที่ Siam Blockchain