กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯ จํากัดการใช้สมาร์ทโฟนของ Sam Bankman-Fried ในขณะที่การต่อสู้เพื่อการถือครองหุ้น Robinhood ทวีความรุนแรงขึ้น

© Reuters. กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐฯ จํากัดการใช้สมาร์ทโฟนของ Sam Bankman-Fried ในขณะที่การต่อสู้เพื่อการถือครองหุ้น Robinhood ทวีความรุนแรงขึ้น

BeInCrypto - กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาต้องการอนุญาตให้ Sam Bankman-Fried (SBF) ใช้มือถือแบบที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และเข้าถึงบางเว็บไซต์ได้เฉพาะในคอมพิวเตอร์ของเขา

อัยการเขตทางใต้ของนิวยอร์กขอให้ Jusge Lewis Kaplan ยื่นฟ้องศาลเพื่อจํากัดการเข้าถึงการสื่อสารของ Sam Bankman-Fried โดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตและเข้าถึงบางเว็บไซต์ได้ โดยใช้ VPN เฉพาะเท่านั้น

Sam Bankman-Fried ควรเข้าถึงได้เฉพาะบางเว็บไซต์เท่านั้น

รัฐบาลสหรัฐและศาลจะต้องทราบหมายเลข IMEI, SIM, MAC และ IMSI ของอุปกรณ์มือถือที่ SBF จะใช้งาน ทั้งยังต้องการทราบที่อยู่ IP และ MAC ของแล็ปท็อปเครื่องใหม่ของเขาด้วยเช่นกัน

จากการปกป้องสิทธิส่วนตัวของเขา Sam Bankman-Fried สามารถใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเข้าถึงผลิตภัณฑ์ GSuite บางรายการได้ ซึ่งรวมถึง Google (NASDAQ:GOOGL) Drive, Google Document และ Read-only Website เท่านั้น

ทั้งนี้ เขายังสามารถใช้งานเว็บไซต์ข่าวต่าง ๆ รวมถึง Bloomberg และ Wall Street Journal และแพลตฟอร์มความบันเทิงเช่น Spotify และ Netflix (NASDAQ:NFLX)

พ่อแม่ของเขาต้องลงนามในหนังสือรับรองเพื่อติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบบนอุปกรณ์ทั้งหมดในบ้านของพวกเขา นอกจากนี้ Sam Bankman-Fried ต้องตกลงที่จะไม่ซื้ออุปกรณ์ใหม่ใด ๆ

SBF’s Current Bail Restrictions | Source: U.S. Department of Justice

ก่อนหน้านี้ผู้พิพากษา Kaplan ได้สั่งห้าม SBF จากการใช้ VPN ที่ไม่ได้รับอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับของรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขชั่วคราว ทำให้ Sam Bankman-Fried ไม่สามารถใช้แพลตฟอร์มการส่งข้อความที่เข้ารหัสลับเพื่อติดต่ออดีตพนักงาน FTX ได้

ทางอัยการได้เพิ่มข้อกล่าวหาต่อผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มคริปโตFTX ซึ่งล้มละลายในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วในคําฟ้องฉบับแก้ไขที่ยื่นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023

ขณะนี้ SBF ต้องเผชิญกับข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงสี่ข้อหาและการสมรู้ร่วมคิดสี่ครั้งเกี่ยวกับวิธีที่เขาวิ่ง FTX คําฟ้องใหม่กล่าวหาว่า Bankman-Fried สมรู้ร่วมคิดกับพนักงาน FTX คนอื่น ๆ เพื่อบริจาคเงินที่ลูกค้า FTX ของฝากเอาไว้ให้กับนักการเมืองอย่างผิดกฎหมายในช่วงการเลือกตั้งระยะกลางของสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว

New Campaign Finance Allegations Against Sam Bankman-Fried | Source: U.S. Department of Justice

Nishad Singh อดีตหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ Bankman-Fried สารภาพผิดต่อข้อกล่าวหาทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อกับ FTX กับการวิจัย Alameda Research ซึ่งเป็นผู้ดูแลตลาดของบริษัทในเครือ

FTX ยืนยันว่าหุ้น Robinhood อยู่ในภาวะล้มละลาย แต่ไม่ใช่กับ BlockFi

แม้ว่าความรัดกุมในการจำกัดสิทธิ์ของ Sam Bankman-Fried ในการต่อสู้คดีของเขา แต่ข้อพิพาทเกี่ยวกับสถานะของหุ้น Robinhood ของเขากําลังกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกนำมาพิจารณาในชั้นศาล

หน่วยงานสินเชื่อคริปโตอย่าง BlockFi ซึ่งยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2022 ได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงหุ้นคืนท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย

FTX ยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2022 หลังจากการถอนเงินของลูกค้าจํานวนมาก ทําให้เกิดการกระทืบสภาพคล่องที่แพลตฟอร์มคริปโต ทางบริษัทได้ยื่นฟ้องล้มละลายกับศาลที่เดลาแวร์ โดยมีทนายความอย่าง Sullivan และ Cromwell ดำเนินการให้ในนามของ FTX

เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายล้มละลายของสหรัฐอเมริกาซึ่งปกป้องบริษัทที่ล้มละลายจากการฟ้องร้อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ FTX ได้แย้งว่าหุ้น Robinhood อยู่ในสภาวะล้มละลาย แทนที่จะเป็นผู้ให้กู้ BlockFi ทั้งนี้ ต้องรอจนกว่าสถานะความเป็นเจ้าของหุ้น Robinhood จะได้รับการแก้ไข

หุ้นดังกล่าวถูกซื้อโดยนิติบุคคลจากแอนติกา นามว่า Emergent Fidelity Technologies Ltd. ซึ่ง Sam Bankman-Fried มีส่วนได้เสียในการควบคุม Bankman-Fried และอดีต CTO ชอง FTX อย่าง Gary Wang ได้กู้เงินเงินจาก Alameda Research เพื่อซื้อหุ้น ต่อมา Emergent ใช้หุ้นเพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ให้กับ Alameda จาก BlockFi ก่อนที่ FTX จะฟ้องล้มละลาย

FTX ได้แย้งว่าหุ้นดังกล่าวเป็นของ Alameda ในทางกลับกัน BlockFi อ้างว่า Sam Bankman-Fried เป็นเจ้าของหุ้นผ่าน Emergent Technologies

ผู้พิพากษาที่ดูแลคดีล้มละลายของ BlockFi เพิ่งสั่งให้ Silvergat ซึ่งเป็นธนาคารคริปโตที่มีปัญหาคืนเงินมัดจํา 9.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐของ BlockFi

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทวิเคราะห์ Bitcoin (BTC) ล่าสุดของ Be[In]Crypto

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก BeInCrypto