เมื่อวันพฤหัสบดี Deutsche Bank ได้ปรับจุดยืนของ US Bancorp (นิวยอร์ก:USB) โดยปรับลดอันดับหุ้นจาก ซื้อ เป็น ถือ ในขณะที่รักษาราคาเป้าหมายไว้ที่ 51.00 ดอลลาร์ การตัดสินใจดังกล่าวได้รับอิทธิพลจากการซื้อขายหุ้นของธนาคารส่วนใหญ่สอดคล้องกับธนาคารระดับภูมิภาคขนาดใหญ่และสัมพันธ์กับเกณฑ์มาตรฐาน S&P 500
นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank อ้างอิงการเปลี่ยนแปลงการจัดอันดับนี้จากสภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยตั้งข้อสังเกตว่าตัวคูณสัมพัทธ์สําหรับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ในภูมิภาคอยู่ที่ 60% เมื่อเทียบกับ S&P 500 ตัวเลขนี้อยู่ที่ปลายล่างของช่วง 60-75% ทั่วไปที่สังเกตได้ในช่วงที่ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แนวทางอนุรักษ์นิยมสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาคที่สูงกว่าปกติและการประเมินมูลค่าตลาดที่สูงขึ้น ซึ่งถูกมองว่าบิดเบือนโดยหุ้นขนาดใหญ่ไม่กี่ตัว
ราคาเป้าหมายที่ 51.00 ดอลลาร์หมายความว่าหุ้นของ US Bancorp คาดว่าจะดําเนินการสอดคล้องกับการประมาณการของนักวิเคราะห์เกี่ยวกับมูลค่าของธนาคาร เป้าหมายราคาซื้อที่บํารุงรักษาชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าการจัดอันดับการซื้อก่อนหน้านี้ของหุ้นจะไม่ได้รับการรับรองอีกต่อไป แต่มูลค่าปัจจุบันไม่ได้บ่งชี้ถึงประสิทธิภาพที่ต่ํากว่าหรือการประเมินมูลค่าสูงเกินไปอย่างมีนัยสําคัญในขณะนี้
การปรับอันดับหุ้นของ US Bancorp เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สถาบันการเงินกําลังนําทางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนซึ่งเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์เน้นย้ําถึงแนวโน้มที่ระมัดระวังสําหรับภาคการธนาคาร ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคและแนวโน้มการประเมินมูลค่าตลาดในวงกว้าง
นักลงทุนที่ถือหุ้น US Bancorp หรือพิจารณาลงทุนในธนาคารจะรับทราบมุมมองที่อัปเดตของ Deutsche Bank การจัดอันดับ Hold บ่งชี้ถึงมุมมองที่เป็นกลางเกี่ยวกับศักยภาพการเติบโตในระยะสั้นของหุ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าผลการดําเนินงานทางการเงินและราคาหุ้นของธนาคารอาจเป็นไปตามวิถีเฉลี่ยของภาคส่วนอย่างใกล้ชิด
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ US Bancorp มีกําไรต่อหุ้น (EPS) ที่แข็งแกร่งที่ 1.03 ดอลลาร์ทั้งในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 โดยมีรายได้สุทธิรวมสูงถึง 6.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ธนาคารได้เห็นการพัฒนาเชิงบวกในเลเวอเรจจากการดําเนินงานและรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ทําให้บริษัทการเงินหลายแห่งปรับราคาเป้าหมาย DA Davidson เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 54 ดอลลาร์ Oppenheimer เป็น 59 ดอลลาร์ Baird เป็น 54 ดอลลาร์ RBC ตลาดทุนเป็น 53 ดอลลาร์ และ Stephens เป็น 52 ดอลลาร์ ในขณะที่ JP Morgan ยังคงยืนหยัดเป็นกลางโดยมีราคาเป้าหมายที่สม่ําเสมอที่ 48 ดอลลาร์
US Bancorp ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนต่อการควบรวมกิจการ โดยอ้างถึงการมุ่งเน้นไปที่การเติบโตแบบออร์แกนิก ธนาคารวางแผนที่จะเริ่มการซื้อหุ้นคืนเล็กน้อยในอนาคตอันใกล้นี้ และยังคงลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ต่อปีในเทคโนโลยี รวมถึงความคิดริเริ่มด้าน AI การเป็นพันธมิตรที่ประสบความสําเร็จกับ State Farm และ Edward Jones คาดว่าจะสนับสนุนการเติบโตในอนาคต นี่คือการพัฒนาล่าสุดของ US Bancorp
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
เพื่อเป็นการเสริมการวิเคราะห์ของ Deutsche Bank ข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro ได้ให้บริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานะทางการเงินของ U.S. Bancorp อัตราส่วน P/E ของธนาคารที่ 14.2 (ปรับในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2024) บ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวเมื่อเทียบกับตลาดในวงกว้าง สิ่งนี้สอดคล้องกับการสังเกตของ Deutsche Bank เกี่ยวกับธนาคารในภูมิภาคที่ซื้อขายที่ทวีคูณที่ต่ํากว่าเมื่อเทียบกับ S&P 500
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของ US Bancorp อยู่ที่ 4.12% ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้ในสภาพแวดล้อมของตลาดปัจจุบัน เคล็ดลับของ InvestingPro เน้นย้ําว่าธนาคารได้จ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 54 ปีติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นแม้จะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจก็ตาม
เคล็ดลับ InvestingPro อีกฉบับหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่านักวิเคราะห์ 13 คนได้ปรับผลประกอบการขึ้นในช่วงเวลาที่จะมาถึง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นเชิงบวกเกี่ยวกับผลการดําเนินงานทางการเงินในระยะสั้นของธนาคาร สิ่งนี้อาจถ่วงดุลกับจุดยืนที่ระมัดระวังมากขึ้นของ Deutsche Bank
สําหรับนักลงทุนที่ต้องการทําความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโอกาสของ U.S. Bancorp InvestingPro เสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 8 ข้อที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและสถานะทางการตลาดของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน