เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Jefferies ได้เพิ่มเป้าหมายราคาสําหรับหุ้นของ SAP SE (SAP:GR) (NYSE: SAP) เป็น 210 ยูโรจาก 210 ยูโร โดยคงเรตติ้ง "ซื้อ" สําหรับหุ้น การตัดสินใจของ บริษัท ยึดมั่นในความเชื่อที่ว่าวงจรผลิตภัณฑ์ของ SAP มีความสําคัญมากกว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคที่ส่งผลกระทบต่อภาคส่วน
นักวิเคราะห์จาก Jefferies ตั้งข้อสังเกตถึงตําแหน่งที่โดดเด่นของ SAP ในภาคส่วนที่มีสัญญาณการซื้อขายที่หลากหลาย โดยเน้นย้ําถึงการนําเสนอผลิตภัณฑ์ของบริษัท ด้วยคําแถลงล่าสุดจากฝ่ายบริหารที่บ่งชี้ถึงไปป์ไลน์การขายที่ดีขึ้นมีความคาดหวังอย่างมากว่าผลประกอบการไตรมาสที่สองจะเป็นเครื่องยืนยันถึงการโยกย้ายระบบคลาวด์ที่ประสบความสําเร็จของ SAP และมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตโดยรวม
ความเชื่อมั่นของ Jefferies ใน SAP ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในเทคโนโลยีคลาวด์ ราคาเป้าหมายใหม่ของบริษัทสะท้อนให้เห็นถึงจุดยืนในแง่ดีเกี่ยวกับความสามารถของ SAP ในการนําทางผ่านภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งขับเคลื่อนโดยโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมและสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง
ราคาเป้าหมายที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นในขณะที่ SAP เตรียมเปิดเผยผลประกอบการทางการเงินไตรมาสที่สอง นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีแนวโน้มที่จะจับตาดูหลักฐานความคืบหน้าในการริเริ่มระบบคลาวด์ของบริษัทและตัวชี้วัดการเติบโตที่สอดคล้องกับการคาดการณ์เชิงบวกของ Jefferies อย่างใกล้ชิด
การรับรองจาก Jefferies ชี้ให้เห็นว่า SAP อยู่ในตําแหน่งที่ดีที่จะสานต่อโมเมนตัมในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ที่กําลังพัฒนา อันดับเครดิต "ซื้อ" ที่คงไว้และเป้าหมายราคาที่สูงขึ้นตอกย้ําความเชื่อมั่นของบริษัทในความสามารถของ SAP ที่จะ Outperform ภายในภาคส่วน
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ SAP SE รายงานว่ารายได้จากระบบคลาวด์และงานในมือเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยรายได้จากระบบคลาวด์เพิ่มขึ้น 25% เป็น 3.9 พันล้านยูโร และงานในมือบนคลาวด์ในปัจจุบันขยายตัว 28% เป็น 14.2 พันล้านยูโร กําไรจากการดําเนินงานเพิ่มขึ้น 19% เป็น 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งบ่งชี้ถึงผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งในภูมิภาคต่างๆ นักวิเคราะห์จาก HSBC ยืนยัน Buy rating สําหรับหุ้นของ SAP โดยเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น €200 จาก €180 ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อผลการดําเนินงานไตรมาสแรกของบริษัท
นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets Corp., Stifel และ J.P. Morgan ยังให้การประเมินของพวกเขาด้วยการให้คะแนนตั้งแต่ "Market Perform" ถึง "Overweight" แม้จะเผชิญกับสภาพแวดล้อมการแข่งขันและอุปสรรคทางเศรษฐกิจมหภาค แต่การเปลี่ยนแปลงระบบคลาวด์ของ SAP และกลยุทธ์การเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ดูเหมือนจะให้ผลลัพธ์ที่แข็งแกร่ง
รายได้ของบริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 29,739 ล้านยูโรในปี 2022 เป็น 37,633 ล้านยูโรในปี 2025 โดยคาดว่ากําไรต่อหุ้นจะเพิ่มขึ้นจาก 4.24 ยูโรในปี 2024 เป็น 5.69 ยูโรในปี 2025 รายได้จากระบบคลาวด์ของ SAP คาดว่าจะอยู่ที่ 25% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2024 และ 2025 โดยได้รับการสนับสนุนจากงานในมือบนคลาวด์ที่แข็งแกร่ง สิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในการพัฒนาล่าสุดสําหรับ SAP
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน