Investing.com - การเติบโตของการส่งออกของจีนคาดว่าจะชะลอตัวในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้อุปสงค์ทั่วโลกลดลง ในขณะที่การนำเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ผลสำรวจของรอยเตอร์สเปิดเผยเมื่อวันศุกร์
การส่งออกมีแนวโน้มเติบโต 15.0% ในเดือนที่แล้วจากปีก่อนหน้า โดยหดตัวลงจากการขยายตัว 17.9% ในเดือนมิถุนายน ตามการคาดการณ์ค่ามัธยฐานในการสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์สโดยนักเศรษฐศาสตร์ 20 คน
ปริมาณการส่งออกอาจลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยจากการสำรวจโรงงานอย่างเป็นทางการของจีนในเดือนกรกฎาคมแสดงให้เห็นถึงการหดตัวของคำสั่งซื้อ
ผลสำรวจระบุว่า ปริมาณการนำเข้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าการเติบโต 1.0% ในเดือนมิถุนายน โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
ในเดือนกรกฎาคม มีการเิ่มการก่อสร้างโครงการหลัก 3,876 โครงการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงทุนรวม 2.4 ล้านล้านหยวน (355.25 พันล้านดอลลาร์) Securities Times กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี
เศรษฐกิจอยู่ในภาวะสั่นคลอนหลังจากที่เกิดจากโควิด19 ในไตรมาสที่สองทำให้กิจกรรมต่าง ๆ เกิดการชะลอตัว ทางการกำลังเพิ่มการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเป็นสองเท่า นำมาตรการแบบเดิมมาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยให้คำมั่นว่าจะให้โควตาสินเชื่อใหม่ 8 แสนล้านหยวนเพื่อเป็นเงินทุนสำหรับโครงการขนาดใหญ่
การเกินดุลการค้าของจีนมีแนวโน้มที่จะลดลงเหลือ 90 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคมจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 97.94 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน
ข้อมูลการค้าจะถูกเปิดเผยในวันอาทิตย์
(1 เหรียญ = 6.7559 หยวนจีน)
(ผลสำรวจรวบรวมโดย Devayani Sathyan และ Jing Wang; รายงานโดย Liangping Gao, Ellen Zhang และ Ryan Woo; เรียบเรียงโดย Kim Coghill)