ราคาน้ํามันยังคงทรงตัวท่ามกลางความตึงเครียดด้านอุปสงค์และอุปทาน

ในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชียวันนี้ ราคาน้ํามันแสดงการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยราคาน้ํามันดิบเบรนท์มาตรฐานทั่วโลกใกล้ระดับต่ําสุดในรอบหนึ่งเดือนที่แตะวันก่อนหน้า เสถียรภาพของราคาเกิดขึ้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์ที่ชะลอตัวในจีนมีความสมดุลกับสัญญาณบ่งชี้ว่าสินค้าคงคลังน้ํามันของสหรัฐฯ ลดลง

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ํามันดิบเบรนท์ลดลงเล็กน้อย 11 เซนต์ ปิดที่ 83.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่น้ํามันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐฯ ลดลง 11 เซนต์เป็น 80.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองอยู่ในวิถีขาลงในช่วงสามเซสชั่นที่ผ่านมา โดยฟิวเจอร์สเบรนท์ลดลงสู่ระดับต่ําสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ 83.30 ดอลลาร์ในวันอังคาร

นักวิเคราะห์ตลาดกําลังจับตาดูจีน ซึ่งเป็นผู้นําเข้าน้ํามันอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างใกล้ชิด ซึ่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงเหลือ 4.7% ในไตรมาสที่สอง ซึ่งเป็นอัตราที่ซบเซาที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2023 การชะลอตัวนี้สร้างแรงกดดันต่อความต้องการน้ํามันและความเชื่อมั่นของตลาด

การเพิ่มแรงกดดันต่อราคาน้ํามันคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นสามเซสชั่นติดต่อกัน ทําให้สินค้าโภคภัณฑ์มีราคาแพงขึ้นสําหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น นักวิเคราะห์ Daniel Hynes จาก ANZ Bank เน้นย้ําถึงผลกระทบของการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ต่อราคาน้ํามัน

อย่างไรก็ตาม สัญญาณของอุปทานที่ตึงตัวในสหรัฐฯ กําลังให้การสนับสนุนตลาด จากข้อมูลจาก American Petroleum Institute สินค้าคงคลังน้ํามันดิบของสหรัฐฯ ลดลง 4.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 กรกฎาคม ตัวเลขนี้เกินกว่าการลดลง 33,000 บาร์เรลที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก รายงานการจัดเก็บอย่างเป็นทางการจากสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ คาดว่าจะเผยแพร่ในวันนี้

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดเหล่านี้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ก็มีบทบาทในการควบคุมราคาน้ํามันที่ลดลงอีก เรือบรรทุกน้ํามันติดธงไลบีเรียกําลังประเมินความเสียหายและการรั่วไหลของน้ํามันที่อาจเกิดขึ้นหลังจากถูกโจมตีโดยกลุ่มฮูตีของเยเมนในทะเลแดง ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลทางทะเลร่วมเมื่อวันอังคาร

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน