Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเป็นครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่อ่อนแอทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในประเทศที่อาจลดลง ในขณะที่ Saudi Aramco ผู้นำการส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (TADAWUL:2222) กล่าวว่าพร้อมแล้วที่จะเพิ่มกำลังการผลิต
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์หรือ 1.2% เป็น 97.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในเวลา 06.31 GMT หลังจากที่ปรับลดลง 1.5% ในวันศุกร์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 91.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.06 ดอลลาร์หรือ 1.2% หลังจากลดลง 2.4% ในช่วงก่อนหน้า
ข้อมูลเศรษฐกิจจีนแสดงการชะลอตัวอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ผลผลิตโรงกลั่นลดลงมาอยู่ที่ 12.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2020 ตามการเปิดเผยจากรัฐบาล
อุปสงค์น้ำมันอาจอยู่ในแนวโน้มขาลงในช่วงที่เหลือของปี เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด19 ที่เข้มงวด ที่กระตุ้นให้ผู้คนเก็บเงินมากขึ้นและลดการใช้น้ำมัน ตามการรายงานของรอยเตอร์ส
Saudi Aramco พร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากได้รับการร้องขอจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย หัวหน้าผู้บริหาร Amin Nasser กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นมากกว่า 3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากชิ้นส่วนท่อส่งน้ำมันได้รับความเสียหายจากแท่นขุดเจาะหลายแห่งนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก และในขณะที่นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกา
โดยหลังจากการซ่อมแซมแล้วเสร็จในวันศุกร์ ผู้ผลิตก็สามารถกลับมาทำงานได้บางส่วน เจ้าหน้าที่รัฐลุยเซียนากล่าว
บริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงาน Baker Hughes Co รายงานเมื่อวันศุกร์ว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 3 เป็น 601 แห่งในสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดน้ำมันทั่วโลกยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัวซึ่งเป็นผลมาจากการที่การคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียและการจัดหาผลิตภัณฑ์กลั่นในฤดูหนาวนี้จากยุโรป
นักวิเคราะห์กล่าวว่าอุปทานอาจมีมากขึ้นหากอิหร่านและสหรัฐฯ ยอมรับข้อเสนอจากสหภาพยุโรปเพื่อฟื้นฟูข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 ซึ่งจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน