โดย Ambar Warrick
Investing.com - ราคาทองคำทรงตัวในวันพุธ เนื่องจากอุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ก่อนรายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาทองแดงดิ่งลงหลังจากอัตราเงินเฟ้อจากโรงงานของจีนที่อ่อนแอชี้ให้เห็นถึงความต้องการโลหะอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว
ในเวลา 22.46 ET (02.46 GMT) ราคา สปอตทองคำ อยู่ที่ประมาณ 1,793.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ลดลง 0.1% เป็น 1,809.95 ดอลลาร์ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคารโดยเป็นผลมาจากความผันผวนในตลาดหุ้นวอลสตรีท
สัปดาห์นี้การซื้อทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ของรายงาน ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPIของสหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดเผยแพร่ในเวลา 08.30 ET ในวันพุธนี้ แม้ว่าค่าที่อ่านได้อาจจะลดลงเล็กน้อยจากเดือนที่แล้วอยู่ที่ 8.7% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม แต่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ประกอบกับ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนก.ค. ที่แข็งแกร่งสามารถผลักดันให้ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าที่คาดในเดือนหน้า
แม้ว่าสถานการณ์นี้จะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ แต่นักลงทุนเชื่อว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยทั่วโลกจะหนุนให้มีความต้องการทองคำซึ่งเป็นสินทรัพท์ปลอดภัย
สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับภาวะ การหดตัวทางเศรษฐกิจ ถึงสองไตรมาสติดต่อกัน ในขณะที่การดำเนินงานของจีนก็ทำให้เกิดการหดตัวใน ไตรมาสที่สอง รวมถึงยูโรโซนยังเตรียมพร้อมสำหรับภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลในวันพุธแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนขยายตัวน้อยกว่าที่คาดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงต่อสู้กับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโควิด19
ตัวเลขในรายงาน ได้บ่งชี้ถึงการชะลอตัวต่อเนื่องของกิจกรรมโรงงานในจีน ทำให้ราคาโลหะอุตสาหกรรมลดลงอย่างมาก ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนเติบโต 4.2% ต่อปีในเดือนกรกฎาคม ลดลงจาก 6.1% ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8%
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองแดง ลดลง 0.5% ในขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้านิกเกิล ร่วงลง 0.7% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ
ความอ่อนแอที่เพิ่มขึ้นในกิจกรรมโรงงานของจีนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อโลหะอุตสาหกรรมในปีนี้ แม้ว่าการนำเข้าโลหะจะยังทรงตัวอยู่ก็ตาม