โดย David Ho
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับลดลงในวันพฤหัสบดี ร่วงลงต่อเนื่องจากความกังวลด้านอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความต้องการน้ำมันเบนซินที่ชะลอตัว แม้ว่าอุปทานทั่วโลกจะตึงตัวก็ตาม
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.84% เป็น 106.55 ดอลลาร์ ในเวลา 00.03 GMT (ET) ในขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.00 % เป็น 99.55 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากเทรดเดอร์ยังหนักใจกับอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว อันเป็นผลมาจากน้ำมันที่หายไปจากฝั่งรัสเซียหลังจากที่ได้เข้ารุกรานยูเครน และยังเป็นที่สงสัยกันว่าเนื่องจากภาวะถดถอยหรือไม่ที่ทำให้ความต้องการพลังงานลดลง
นอกจากนี้ น้ำมันเบนซินคงคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลถูกเปิดเผยจากฝั่งของรัฐบาลเมื่อวันพุธ ตัวเลขที่ถูกเปิดเผยนี้อยู่เหนือกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในโพลของรอยเตอร์สที่ว่าจะเพิ่มขึ้น 71,000 บาร์เรล
โดยข้อมูลอุปทานน้ำมันเบนซินอยู่ที่ประมาณ 8.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 7.6% ที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งตัวเลขนี้เหมือนสะท้อนถึงความต้องการน้ำมันทั่ว ๆ ไป
วิเวก ดาร์นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร Commonwealth กล่าวว่า "เราคาดว่าราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์จะลดลงเหลือ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ซึ่งหมายความว่าราคาจะปรับลดลงเล็กน้อยจากระดับปัจจุบัน"
National Oil Corp ในลิเบียเปิดเผยว่าการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งน้ำมันหลายแห่งได้กลับมาดำเนินการ อีกครั้งหลังจากยกเหตุสุดวิสัยในการส่งออกน้ำมันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
TC Energy (NYSE:TRP) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการส่งออกน้ำมันรายใหญ่แห่งหนึ่งของแคนาดาได้ปรับราคาลดลงเป็นวันที่สามในวันพุธ การซ่อมแซมยังคงดำเนินต่อไปในโรงไฟฟ้าของบริษัทอื่นในเซาท์ดาโคตา