รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

พลังงานและโลหะมีค่า - บทวิจารณ์และแนวโน้มรายสัปดาห์

เผยแพร่ 13/02/2565 16:50
อัพเดท 14/02/2565 14:27
© Reuters

โดย Barani Krishnan

Investing.com “ท่ามกลางความโกลาหล ยังมีโอกาส” ซุนวู ปรมาจารย์นักยุทธศาสตร์ชาวจีนโบราณ ผู้ประพันธ์ The Art of War ได้กล่าวไว้

และท่ามกลางความโกลาหลของวันศุกร์ที่ทุกคนต่างจับตามองการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของนายวลาดิเมียร์ ปูตินนั้น  ราคาน้ำมันดิบถือโอกาสนี้ไต่ระดับสูงขึ้นโดยรอบนี้ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งน่าจะเหลืออีกเพียงวิกฤตเดียวสั้นๆ นั่นก็คือการรอที่ราคาจะแตะ 100ดอลลาร์

เหตุการณ์ดราม่าในวันศุกร์เกิดขึ้นก่อนเวลา 13.30 ในนิวยอร์ก (18.30 ในลอนดอน) เมื่อมีข่าวด่วนจากช่อง PBS ได้แจ้งว่าสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าปูตินได้ตัดสินใจที่จะบุกยูเครน รายงานระบุว่า ผู้นำรัสเซียได้แจ้งเรื่องนี้ต่อกองกำลังของเขาที่เคลื่อนกำลังพลตามชายแดนยูเครนแล้ว โดยคาดการณ์ว่าจะมีการบุกในสัปดาห์หน้า รายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของไบเดนสองคนยังได้แสดงความเห็นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกัยโทนี่ บลิงเคนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอีกด้วย

และก็เป็นช่วงนาทีทอง ภายในเวลา 15 นาทีของแท่งเทียนซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นจาก 92 ดอลลาร์สู่ระดับสูงสุดที่ 94.66 ดอลลาร์ ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์เปลี่ยนจาก 93 ดอลลาร์แตะสูงสุดที่ 95.65 ดอลลาร์ ตลาดพลังงานและโลหะแทบทุกแห่งก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเหนือ 1,862 ดอลลาร์

ดัชนีของ Wall Street ได้รับผลกระทบอีกครั้ง โดยที่ S&P 500 และ Nasdaq ทั้งคู่ตกลงไปเกือบ 3% ณ จุดหนึ่ง (S&P ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุด 2%) สำหรับหุ้นนั้น ภาพเดจาวูของระดับต่ำสุดในเดือนมกราคมเหมือนกลับมาอีกครั้งหลังจากสองสัปดาห์ขาขึ้นในเดือนนี้ 

เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อบ่ายวันนั้นว่า รัสเซียสามารถบุกยูเครนได้อย่างแน่นอน ขณะที่โลกกำลังให้ความสนใจกับโอลิมปิก เขากล่าวว่ามอสโคมีกำลังพลมากพอที่จะปฏิบัติการทางการทหารในเคียฟ ซึ่งอาจจะเริ่มจากการโจมตีทางอากาศและย้ำต่อไปว่าสหรัฐจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดหากปูตินตัดสินใจดำเนินการอย่างที่กล่าวมา 

อย่างไรก็ตามซัลลิแวนก็ได้กล่าวอย่างอื่นเพิ่มเติมในการแถลงข่าวว่า ““เราไม่ได้กล่าวว่าปูตินได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้ว” นั่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลาย ๆ คนในตลาดเนื่องจากเป็นสัญญาณว่าทำเนียบขาวอาจสร้างสถานการณ์เกินความเป็นจริง

ดังที่ เอ็ด โมย่า แห่งแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าวไว้ว่า:ช่วงเวลาของความสงบที่คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะมีขึ้นต่อสถานการณ์ยูเครนนั้น เหมือนว่าจะไม่เป็นไปตามที่คิดอีกต่อไป”

ไม่ว่ากรณีใด ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐได้คืนกำไรส่วนหนึ่งจากราคาสูงสุดของวัน โดยลดลงเล็กน้อยในสัปดาห์หลังจากไต่ระดับขึ้นแบบรวดเร็วในเจ็ดสัปดาห์ (ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ มันเข้าใกล้จุดสูงสุดระหว่างวันมากขึ้น) แม้ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะย่อตัวลงมาแต่ก็ไม่มาก โดยทำได้มากกว่า 1% ในสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่แปดติดต่อกัน

น้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากคำเตือนของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศว่าอุปทานน้ำมันทั่วโลกอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ในรายงานประจำเดือนของ IEA ของกรุงปารีส ได้มีการปรับเพิ่มการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีนี้จาก 800,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 3.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ IEA ยังคาดการณ์ว่าอาจมีการขาดแคลนน้ำมันถึงพันล้านบาร์เรลภายในสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งขัดกับจำนวนตัวเลขที่องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ จะอัดเข้าสู่ตลาดและตัวเลขแห่งความเป็นจริงที่ส่งมอบตั้งแต่ต้นปี 2021

“ตลาดน้ำมันตึงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ” ทอริล โบโซนี หัวหน้าแผนกตลาดและอุตสาหกรรมของ IEA กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของบลูมเบิร์กหลังการเปิดเผยรายงาน "ราคายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและขณะนี้กำลังถึงระดับที่ไม่สบายใจสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก"

ก่อนหน้าที่จะมีข่าวรัสเซีย - ยูเครนและคำเตือนของ IEA ดูเหมือนว่าราคาของน้ำมันจะร่วงไป 3% ในระหว่างสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสสิ้นสุดลง การลดระดับลงของราคาน้ำมันดังกล่าวเกิดขึ้นจากความกังวลว่าอุปทานน้ำมันของอิหร่านสามารถกลับคืนสู่ตลาดอย่างถูกกฎหมายผ่านข้อตกลงนิวเคลียร์ และธนาคารกลางสหรัฐสามารถกำหนดขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มากถึง 0.5% ต่อเดือนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ

ดังนั้น กลับไปที่คำพูดของซุนวูเกี่ยวกับความโกลาหลและโอกาส ทั้งขาสั้นและขายาวต่างก็ได้ส่วนแบ่งในช่วงต่าง ๆ ของสัปดาห์ แม้ว่าตลาดจะกลับเข้าสู่ตลาดขาขึ้นอีกครั้งในช่วงปิดวันศุกร์

ราคาน้ำมันและแนวโน้มทางเทคนิค

ตลาดซื้อขายในนิวยอร์ก สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI สหรัฐอเมริกา ขึ้น 3.22 ดอลลาร์หรือ 3.6% ที่ 93.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล WTI แตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 94.65 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ แม้ว่าในสัปดาห์นั้น WTI ร่วงลง 37 เซนต์หรือ 0.3% ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกหลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานเจ็ดสัปดาห์

ตลาดซื้อขายน้ำมันในลอนดอน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดราคาน้ำมันทั่วโลก แตะระดับสูงสุดที่ 95.65 ดอลลาร์ ก่อนปิดที่ 94.44 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.98 ดอลลาร์ หรือ 3.3% นั่นทำให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.3% ในสัปดาห์นี้ ทำให้เป็นสัปดาห์ที่แปดติดต่อกัน

สุนิล คูมา ดีซิท หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านเทคนิคของ skcharting.com เปิดเผยว่า เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองมีการซื้อมากเกินไปหลังจากที่มีการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 8 สัปดาห์

“มันเป็นการซื้อมากเกินไป” ดีซิทกล่าว “ในกรณีของ WTI การไต่ระดับเพิ่มขึ้นของสัปดาห์นี้จากระดับต่ำสุดที่ 88.40 ดอลลาร์เป็นระดับสูงสุดที่ 94.65 ดอลลาร์ ทำให้การสุ่มอ่านรายสัปดาห์อยู่ที่ 94/9 และการอ่านรายสัปดาห์ของ  RSI อยู่ที่ 71”

“นี่เป็นสถานการณ์ที่เห็นได้ชัดว่ามีการซื้อกันมากเกินไป โดยมีความพยายามปรับฐานให้ถึงอย่างน้อย 88 ดอลลาร์ และ 77 ดอลลาร์ ระหว่างทางสั้นๆ ถึงระยะกลาง แล้วเราจะไปถึงจุดนั้นกันไหมนั้น อาจจะไม่ ถ้าหากวิกฤตยูเครนยังคงดำเนินต่อไป”

ดีซิทยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการควบรวมเหนือ 90 ดอลลาร์ และ 92 ดอลลาร์นั้นจะทำให้ WTI แข็งแกร่งขึ้นและเข้าสู่ตำแหน่ง 98 ดอลลาร์และในที่สุดก็ทะลุ 100 ดอลลาร์ ที่เกินการคาดการณ์ไว้มาก โดยมีเป้าหมาย 101 ดอลลาร์และ 107 ดอลลาร์

ราคาทองคำและกิจกรรมทางการตลาด

ครั้งสุดท้ายที่ราคาทองคำพุ่งเหนือ 1,860 ดอลลาร์คือเมื่อสามเดือนที่แล้ว และครั้งสุดท้ายที่ราคาพุ่งขึ้น 2% ในหนึ่งวันคือเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ซึ่งก็เป็นเวลานานพอสมควร

แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในเซสชั่นของวันศุกร์ท่ามกลางความกลัวของธนาคารกลางสหรัฐที่มีต่อวิกฤตสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน และหลังจบการประชุมโคเม็กซ์ที่ทำตลาดขึ้น 3% ในสัปดาห์นี้อย่างไม่เป็นทางการ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดของตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์ก ทองคำ ปรับตัวขึ้น 4.70ดอลลาร์ หรือ 0.3% ที่ 1,842.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

นั่นคือก่อนหน้าจะมีรายงานว่าสหรัญเชื่อว่ารัสเซียได้ตัดสินใจจะบุกยูเครน

เกือบจะในทันทีหลังจากการตั้งเส้นราคาขึ้นใหม่ ทองคำเดือนเมษายนเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยเพิ่มอีก 25 ดอลลาร์แตะ 1,867.25 ดอลลาร์ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนและจุดสูงสุดของการซื้อขายอย่างเป็นทางการสำหรับวันจันทร์นี้

ต่างจากราคาน้ำมัน ทองคำแทบจะไม่ผันผวนจากระดับสูงสุด แม้ว่า เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวจะอ้างว่ารัสเซียจะโจมตียูเครนอย่างแน่นอนในสัปดาห์หน้า (ทั้ง ๆ ที่มีแรงสนับสนุนขาขึ้นในฐานะที่ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย)

สำหรับนักลงทุนขาขึ้นในตลาด ความสามารถของทองคำในการรักษาระดับเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้นั้นเป็นผลดี แม้ว่าจะมีความกลัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปในปีนี้เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น

ดังนั้น คำถามคือ: ทองคำแท่งจะไปถึง 1,900 ดอลลาร์ในครั้งต่อไปและภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่

ภูมิรัฐศาสตร์อาจมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ ที่ในตอนนี้บทบาทที่ปลอดภัยของทองคำกลับมามีความสำคัญอีกครั้ง

แนวโน้มทางเทคนิคทองคำ

ดีซิทของ skcharting.com กล่าวว่าราคาทองคำมีแนวโน้มว่าจะแตะระดับ 1,900 ดอลลาร์ด้วยโมเมนตัมในปัจจุบัน 

“ราคาทองคำได้ทำกำไรที่ดีที่สุดรายสัปดาห์ท่ามกลางความขลุกขลักตลอดทั้งปีและอดีต” ดีซิทกล่าว โดยอ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่ธนาคารทองคำแท่งพยายามที่จะกดราคาทองคำไว้

เขากล่าวว่าด้วยการเพิ่มขึ้นจากแนวรับที่ 1,808 ดอลลาร์ ทองคำได้ทะลุผ่านแนวต้านหลายระดับและหยุดที่ 1,865 ดอลลาร์ ปิดสัปดาห์ไปที่ 1,859 ดอลลาร์ ได้กำไรมา 41 ดอลลาร์

ดีซิทกล่าวเพิ่มว่าในส่วนของอินดิเคเตอร์ของ Stochastic และ RSI จากกราฟรายสัปดาห์มีค่าอยู่ที่ 50/50 และ 57 ตามลำดับซึ่งสนับสนุนแนวโน้มราคาในปัจจุบันให้ไปในทิศทางเดิม

“เนื่องจากราคา 1,860ดอลลาร์ ทำเครื่องหมายที่ระดับ Fibonacci 23.6% ที่สำคัญที่ 1,678ดอลลาร์ ถึง 1,916ดอลลาร์ อาจเห็นการพุ่งขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่องที่ 1,900-1,916 ดอลลาร์ หากทองคำสามารถยืนเหนือโซนสนับสนุน 1,843-1,825ดอลลาร์ได้ในกรณีที่มีการปรับฐาน” เขากล่าวเสริม

หมายเหตุ: Barani Krishnan ไม่ได้ถือครองสินค้าโภคภัณฑ์และหลักทรัพย์ที่เขาเขียนถึงในบทความนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย