โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันปรับตัวลงในเช้าวันนี้ แต่ยังคงนับเป็นสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงเติบโตเร็วกว่าอุปทาน ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนก็ช่วยลดผลกระทบจากสถานการณ์โควิดทั่วโลก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.79% มาอยู่ที่ $74.51 เมื่อเวลา 01:18 น. ET (5:18 น. GMT) หลังจากไต่ขึ้น 1.75% ในวันพฤหัสบดี สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.736 มาอยู่ที่ 73.06 ดอลลาร์ หรือ 1.7%
ทั้งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของน้ำมันเบรนท์และ WTI คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2% ในสัปดาห์นี้ จากสัญญาณของอุปทานน้ำมันดิบที่ตึงตัวและความต้องการเชื้อเพลิงที่แข็งแกร่งในสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ทั้ง สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน และ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ ต่างรายงานการลดลงของอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยน้ำมันดิบคงคลังที่เมือง Cushing อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020
นักวิเคราะห์ของ ANZ ระบุว่า แม้แต่ปริมาณการใช้น้ำมันเครื่องบินของสหรัฐ ก็แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม
จัสติน สเมิร์ค นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Westpac บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “ราคาน้ำมันกำลังแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่เราเห็นในสถานที่ต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา”
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และบางส่วนของยุโรป
นักลงทุนบางส่วนกล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดที่เพิ่มขึ้น อาจช่วยจำกัดความจำเป็นในการใช้มาตรการอันเข้มงวด ดั่งที่ส่งผลให้อุปสงค์ลดลงในปี 2020
การใช้น้ำมันเบนซินและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียก็เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากจำนวนผู้ป่วยโควิดในประเทศพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นปี
ในขณะเดียวกัน องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) จะเริ่มปรับขึ้นปริมาณน้ำมันรายเดือน 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมและดำเนินต่อไปจนกว่าการผลิตของ OPEC+ ทั้งหมดจะหยุดลงจากสถานการณ์โควิด และคาดว่าตลาดจะสามารถรองรับอุปทานเพิ่มเติมเหล่านี้ได้ เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นตลอดช่วงครึ่งหลังของปี 2021