โดย Gina Lee
Investing.com – น้ำมันปรับตัวลงในเช้าวันนี้ โดยค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้นทำให้เกิดแรงกดดันต่อราคา อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐที่น้อยลงกว่าที่คาดไว้ ทำให้ราคาไม่ร่วงลงมากนัก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.56% มาอยู่ที่ 73.97 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 23:47 น. ET (3:47 น. GMT) และ lสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIลดลง 0.53% เป็น 71.77 ดอลลาร์
นักลงทุนยังคงวิเคราะห์ การตัดสินใจเชิงนโยบายล่าสุดของเฟด เมื่อวานนี้
“ตลาดพลังงานให้น้ำหนักไปที่ฤดูท่องเที่ยวในหน้าร้อนและการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจต่อการตัดสินใจของเฟด” เอ็ดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ OANDA กล่าวกับรอยเตอร์
“เฟดถูกคาดหวังให้ระงับและยกเลิกการประชุมครั้งนี้ แต่พวกเขาส่งสัญญาณชัดเจนว่าพร้อมที่จะเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการลดสินทรัพย์ และนั่นหมายถึงการที่ค่าเงินดอลลาร์พร้อมสำหรับการดีดตัวขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นอุปสรรคต่อสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งหมด” เขากล่าวเสริม ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดภายในวันเดียวในรอบ 15 เดือน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกา (EIA) ได้ช่วยพยุงราคาน้ำมันเอาไว้
ข้อมูลจาก EIA แสดงให้เห็นว่าน้ำมันลดลง 7.355 ล้านบาร์เรล ณ สัปดาห์ถึงวันที่ 11 มิ.ย. การลดลงครั้งนี้มากกว่าตัวเลข 3.290 ล้านบาร์เรลจากการคาดการณ์ของ Investing.com และตัวเลข 5.241 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ก่อน โรงกลั่นก็ดำเนินงานในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 อันเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มความต้องการเชื้อเพลิงยังคงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า ปริมาณน้ำมันลดลง 8.537 ล้านบาร์เรล
การเพิ่มปริมาณการกลั่นในประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกก็ทำสถิติสูงสุดที่ 4.4% จากเดือนเดียวกันในปี 2020 ซึ่งช่วยพยุงราคาน้ำมันเอาไว้เช่นกัน
“ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงนี้น่าจะเกิดขึ้นชั่วคราว เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานน่าจะชดเชยการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ได้ไม่ยาก" โมยากล่าวทิ้งท้าย