โดย Gina Lee
Investing.com – ราคาน้ำมันร่วงลงในช่วงเช้า หลังสหรัฐประกาศตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังจำนวนมาก ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้สำหรับช่วงเปิดฤดูการท่องเที่ยวในหน้าร้อน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 0.69% สู่ 71.72 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 00:16 น. ET (4:16 น. GMT) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.69% เป็น 69.48 ดอลลาร์
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบของสหรัฐจาก สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ลดลง 5.241 ล้านบาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิถุนายน จากการคาดการณ์โดย Investing.com ว่าจะลดลง 2.036 ล้านบาร์เรล จากที่ลดลง 5.080 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
ข้อมูลอุปทานน้ำมันดิบจาก สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ที่เผยแพร่เมื่อวันก่อนแสดงให้เห็นว่ามีการลดลง 2.108 ล้านบาร์เรล
“ตลาดมองอุปสงค์ในแง่บวก เนื่องจากสหรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนที่มีการขับขี่คับคั่งที่สุด โดยมีโครงการฉีดวัคซีนและปริมาณการเดินทางขนส่งที่เพิ่มขึ้นเป็นตัวหนุนความต้องการเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวยังไม่ราบรื่น" นักวิเคราะห์จาก ANZ Research กล่าวในรายงาน
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน ระบุว่า น้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ รวมถึงการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 11 ขณะที่โรงกลั่นพยายามเพิ่มกำลังการผลิต อย่างไรก็ตาม มันกลับมาเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคน้อยลง
ในขณะเดียวกัน บริษัท Waha Oil Co ของลิเบียมีรายงานว่า จะกลับมาดำเนินการผลิตตามปกติในนี้ หลังจากแก้ไขการรั่วไหลบนท่อส่งน้ำมัน การรั่วไหลที่รายงานเมื่อวันจันทร์ทำให้การผลิตน้ำมันลดลงเหลือ 130,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 285,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงก่อนหน้า
ทางด้านอุปสงค์ของอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับสามของโลก ได้ประกาศระดับความต้องการเชื้อเพลิงต่ำที่สุดในเดือนพฤษภาคม นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศถูกจำกัดด้วยจำนวนผู้ป่วยโควิดที่ยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตัวเลขทะลุ 29 ล้านคนแล้ว ณ วันที่ 10 มิถุนายน