รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ทองคำกลับมายืนเหนือ $1,800 ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์

เผยแพร่ 06/05/2564 21:18
อัพเดท 06/05/2564 21:19

โดย Barani Krishnan

 

Investing.com - ในที่สุดทองคำก็ได้เข้ามาแตะที่แดน 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันพฤหัสบดีหลังจากผ่านไป 10 สัปดาห์

แต่นักวิเคราะห์บางคนที่ติดตามทองคำนั้นมีความสงสัยว่ามันจะสามารถรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่ การปรับตัวขึ้นล่าสุดเกิดขึ้นจากการหมุนเวียนสินทรัพย์ในวอลล์สตรีท ทำให้นักลงทุนบางคนมีความรอบคอบมากขึ้น

นอกจากนี้ทองคำยังสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ - เนื่องจากมันเป็นสินค้าตัวแรกที่มีบทบาทยาวนานในฐานะทรัพย์สินป้องกันความเสี่ยง

ราคาทองคำ ในตลาด Comex ของนิวยอร์กปรับตัวขึ้น 31.40 ดอลลาร์หรือ 1.8% ที่ 1,815.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เซสชันสูงสุดอยู่ที่ 1,818.25 ดอลลาร์

ราคาทองคำสปอต เพิ่มขึ้น 27.86 ดอลลาร์หรือ 1.6% เป็น 1,814.60 ดอลลาร์ในเวลา 15.00 น. ET (19:00 GMT) หลังจากช่วงสูงสุดที่ 1,818.09 ดอลลาร์

“หากคุณต้องการป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อตอนนี้มีสินค้าอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณสามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ ทองแดง ไปจนถึง ถั่วเหลือง

Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Saxo Bank ยังกล่าวอีกว่าทองคำมีอะไรให้พิสูจน์อีกมากมาย

"หลังจากการเคลื่อนไหวที่รอคอยมาอย่างยาวนาน ทองคำได้พุ่งขึ้นทะลุ 1,800 ดอลลาร์และแตะ 1,818 ดอลลาร์ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมายถัดไปที่ 1,829 ดอลลาร์" ดิซิตกล่าว "แต่การเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ต่ำกว่า $ 1,805 - $ 1,785 จะถูกตีความว่าเป็นการปรับราคาในเชิงตรรกะและอาจดันราคากลับลงไปถึง $1,735"

นับตั้งแต่ปีที่เริ่มต้นขึ้นทองคำได้เผชิญกับปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมักพุ่งสูงขึ้นจากข้อโต้แย้งที่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจากการระบาดใหญ่อาจเกินความคาดหมาย ส่งผลให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดเงินเฟ้อเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ศูนย์

ผลตอบแทนของ พันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.564 ในวันพฤหัสบดีจากระดับ 1.6% ที่สำคัญ

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ ค่าเงินยูโร และสกุลเงินหลักอื่น ๆ อีก 5 สกุลอยู่ที่ 90.985 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 91 ที่สำคัญ

ทองคำมีความร้อนแรงในช่วงกลางปี ​​2020 เมื่อเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคมที่ต่ำกว่า 1,500 ดอลลาร์เพื่อแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 2,100 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคมซึ่งตอบสนองต่อความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เกิดจากการผ่อนปรนทางการคลังครั้งแรกของสหรัฐฯ หลังมีการอนุมัติแพคเกจ 3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนา

ความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนพร้อมกับการมองโลกในแง่ดีของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้ทองคำต้องปิดการซื้อขายในปี 2020 ที่ระดับ 1,900 ดอลลาร์

ในปีนี้อาการทรุดหนัก หลังทองคำร่วงลงเป็นครั้งแรกที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์ในเดือนมกราคมจากนั้นทรุดตัวลงต่ำถึง 1,660 ดอลลาร์ ณ จุดหนึ่งในเดือนมีนาคม

ความอ่อนแอของทองคำดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าทึ่งหากพิจารณาจากมุมมองของการกระตุ้น Covid-19 ซึ่งมีมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ที่ผ่านโดยสภาคองเกรสในเดือนมีนาคมและฝ่ายบริหารของไบเดน มีแผนสำหรับการใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมอีก 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีเพียงเล็กน้อย ตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อ ไปจนถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภค ภาคอสังหา และการจ้างงาน ซึ่งตัวเลขดีกว่าการคาดการณ์ สิ่งเหล่านี้กระตุ้นความหวังในการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

ปัจจัยเหล่านี้ยังกระตุ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนไหวต่อเงินเฟ้อเช่น น้ำมัน, ไม้แปรรูป และแม้แต่ กาแฟ

แต่ทองคำก็ยังคงถือได้ว่าเป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้ออันดับ 1 ของโลกและ “ที่หลบภัย” ที่ทุกคนหันมาพึ่งพิงในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินและการเมืองอยู่ในภาวะวิกฤต

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย