InfoQuest - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (11 พ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่นักลงทุนกังวลว่าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เผชิญกับความไม่แน่นอน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 77.10 ดอลลาร์ หรือ 2.86% ปิดที่ 2,617.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 83.6 เซนต์ หรือ 2.66% ปิดที่ 30.613 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.00 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 969.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.90 ดอลลาร์ หรือ 1.00% ปิดที่ 982.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.52% แตะที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ดาเนียล จาลี นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท TD Securities ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักนับตั้งแต่ทรัมป์ชนะเลือกตั้ง โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำดิ่งลงเกือบ 2% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการต่าง ๆ ของทรัมป์จะส่งผลให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และอาจทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่ให้น้ำหนัก 80% ก่อนที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้ง
นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในงานเสวนาที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ในวันพฤหัสบดีที่ 14 พ.ย. เวลา 15.00 น. ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด