โดย Detchana.K
Investing.com - บมจ.ไทยออยล์ระบุว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค.63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 17.7 จากเดือนก่อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ8.0 โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น หลังเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันจากเดือนพ.ค.63 ปรับเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 91.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2563เนื่องจากยอดการใช้น้ำมันที่สูงกว่าคาดในช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตาม ยังคงมองว่าอุปสงค์น้ำมันจะไม่ฟื้นตัวกลับมาเท่ากับระดับก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาดจนกว่าจะถึงปี 2565
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเตือนว่าเศรษฐกิจในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับสภาวะถดถอยซึ่งมีความไม่แน่นอนว่าจะมีผลกระทบที่รุนแรงหรือยาวนานมากน้อยเพียงใด โดยยังคงคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงหดตัวต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบขยับลงในวันนี้ หลังจากที่สต๊อกน้ำมันของสหรัฐเพิ่มขึ้น บวกกับความกังวลเรื่องการระบาดซ้ำของโควิด-19
ราคาน้ำมันดิบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ (กดดูกราฟราคาล่าสุด ) ลดลง 40 เซนต์ หรือ 1.0% อยู่ที่ 40.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI (กดดูกราฟราคาล่าสุด ) ลดลง 59 เซนต์ หรือ 1.56% อยู่ที่ 37.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตัวดีดขึ้นกว่า 3% ในการซื้อขายช่วงก่อนหน้า หลังสำนักงานพลังงานสากลหรือ IEA ปรับเพิ่มประมาณการความต้องการน้ำมันในปีนี้ขึ้นเป็น 91.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยอดค้าปลีกสหรัฐปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม แต่ข่าวเรื่องปริมาณสต๊อกน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความกังวลเรื่องอุปทานเกินกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา ระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่ 543.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 152,000 บาร์เรล
บทความห้ามพลาด
ตลาดน้ำมันกำลังได้เปรียบ วันสิ้นโลกเป็นแค่เรื่องหลอกลวง และนี่คือเรื่องจริง
BP ออกมายอมรับแล้ว หั่นแผนธุรกิจระยะยาวและมูลค่าบริษัทลง 1.75 หมื่นล้านเหรียญ!