Investing.com - ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ขยายกำไรล่าสุด หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่าก่อนข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ในขณะที่การเดิมพันเกี่ยวกับอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัวมากขึ้นก็ยังคงมีอยู่
เงินดอลลาร์อ่อนลงอย่างมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความสนใจกำลังโฟกัสไปที่ข้อมูล CPI เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ นั้นลดลงอย่างไม่คาดคิดได้สนับสนุนตลาดน้ำมันดิบ แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของน้ำมันกลั่นคงคลังจะจำกัดความเชื่อมั่นโดยรวมเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว ด้านข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุด ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อน้ำมันเช่นกัน
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 85.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 81.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 21:16 ET (01:16 GMT)
เงินดอลลาร์อ่อนลงจากเดิมพันการลดอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันได้รับประโยชน์จากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า หลังจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมุ่งสู่การ soft landing
พาวเวลล์ยังกล่าวว่าธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องรอให้เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% เพื่อที่จะเริ่มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคำพูดของเขาส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์และทำให้ความสนใจโฟกัสไปที่ข้อมูล CPI อย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะชี้ให้เห็นถึงการลดลงของเงินเฟ้อในเดือนมิถุนายน
เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ายังทำให้ความต้องการน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นโดยทำให้น้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อในต่างประเทศอีกด้วย
น้ำมันคงคลังสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิด แต่น้ำมันกลั่นยังคงเพิ่มขึ้น
ข้อมูลอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าสินค้าคงคลัง น้ำมันดิบ ของสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ของวันที่ 5 กรกฎาคม ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเดินทางในช่วงวันหยุดฤดูร้อน
แต่ข้อสงสัยเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของความต้องการในสหรัฐฯ ก็ยังคงมีอยู่โดยเฉพาะหลังจากที่ปริมาณ น้ำมันกลั่น นั้นเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดตลอดสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงเตรียมพร้อมสำหรับตลาดสหรัฐฯ ที่อาจตึงตัวในสัปดาห์ที่จะถึงนี้เพราะการเดินทางในช่วงฤดูร้อน ขณะที่พายุเฮอริเคนเบริลก็คาดว่าจะก่อให้เกิดการหยุดชะงักบางส่วนต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก
องค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ยังคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2024 และ 2025 โดยระบุว่าความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจโลกและการเดินทางทางอากาศที่ฟื้นตัวจะสนับสนุนสุปสงค์ได้ดี
ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ก็มีกำหนดการณ์จะเผยแพร่ รายงานประจำเดือน ในวันนี้ โดยสำนักงานมีการคาดการณ์อุปสงค์ที่ไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับ OPEC