Investing.com - ราคาทองคำขยับลงเล็กน้อยและขยายการขาดทุนในตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีแนวโน้มหันเข้าหาเงินดอลลาร์ในความคาดหวังต่อข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ
ทองคำยังคงติดอยู่ในกรอบราคาประมาณ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตลอดเดือนมิถุนายน เนื่องจากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยที่สูงในสหรัฐฯ ได้ทำให้มุมมองราคายังไม่ชัดเจน
เมื่อเวลา 00:17 ET (04:17 GMT) ทองคำสปอต ขยับลง 0.1% เป็น 2,317.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ทองคำฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคม ขยับลง 0.1% เป็น 2,328.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองคำยังคงติดกรอบราคาก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ PCE
ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลดลงในสัปดาห์นี้ เพราะปริมาณการซื้อขายยังคงมีจำกัดเนื่องจากตลาดต่างรอข้อมูลเงินเฟ้อดัชนีราคา PCE ในสัปดาห์นี้
รายงานดังกล่าวที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดชื่นชอบ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อมุมมองของธนาคารกลางเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
สัญญาณความแข็งแกร่งในเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ได้ทำให้เกิดความกลัวว่าเฟดจะมีพื้นที่เพียงพอที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยให้สูงได้นานขึ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนก็ได้กล่าวย้ำแนวคิดดังกล่าวในสัปดาห์นี้
ตัวเลขที่ปรับปรุงใหม่ของรายงาน GDP ในไตรมาสแรกก็มีแนวโน้มที่จะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
โลหะมีค่าอื่น ๆ ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แม้ว่ากำไรจะถูกจำกัดจากความกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงในระยะยาวจะทำให้ราคาลดลงในเดือนต่อ ๆ ไป ความแข็งแกร่งของเงิน ดอลลาร์ ซึ่งยังคงใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือนก็ส่งผลให้ราคาของโลหะลดลงด้วย
แพลตตินัมฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.6% เป็น 1,005.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ แร่เงินฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.2% เป็น 29.258 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ราคาทองแดงทรงตัวจากความกังวลต่อจีน
ในบรรดาโลหะอุตสาหกรรม ราคาทองแดงยังคงทรงตัวในวันนี้ และกำลังเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักตลอดเดือนมิถุนายนท่ามกลางความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นต่อผู้นำเข้ารายใหญ่อย่างจีน
ทองแดงฟิวเจอร์ส ของ London Metal Exchange ขยับลง 0.1% เป็น 9,561.50 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์สอายุหนึ่งเดือน ทรงตัวที่ 4.3695 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ความเป็นไปได้ของสงครามการค้าระหว่างจีนและตะวันตกก็ทำให้ความเชื่อมั่นต่อทองแดงลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเก็บภาษีนำเข้าที่สูงต่อรถยนต์ไฟฟ้าจีนในสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
ภาษีเหล่านี้ยังเป็นสัญญาณของอุปสรรคเพิ่มเติมต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งความต้องการทองแดงหลักในปีข้างหน้า