Investing.com - ราคาน้ำมันทรงตัวในการซื้อขายของตลาดเอเชียวันนี้ หลังร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากการลดราคาน้ำมันของซาอุดีอาระเบียเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซา
ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ลดราคาการส่งออกต่อตลาดเอเชียและบางส่วนของยุโรป โดยราคาส่งออกน้ำมันของตลาดเอเชียร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 27 เดือน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันดิบที่ชะลอตัว โดยเฉพาะในประเทศนำเข้ารายใหญ่ของเอเชียอย่างจีน นอกจากนี้ยังเป็นเพราะซาอุดิอาระเบียนั้นดิ้นรนกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดน้ำมันดิบ เนื่องจากประเทศอื่น ๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนธันวาคม
แนวโน้มดังกล่าวทำให้เกิดปัญหากับราคาน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากความต้องการที่ดูอ่อนเแอควบคู่ไปกับตลาดที่มีแนวโน้มว่าจะยังคงมีอุปทานเกินดุล อย่างน้อยก็ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมีนาคม ขยับขึ้น 0.2% เป็น 76.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 0.1% เป็น 70.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อ 20:02 ET (01:02 GMT) โดยดัชนีทั้งสองร่วงลงมากกว่า 3% ในวันจันทร์ ซึ่งลบกำไรทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสัปดาห์แรกของปี 2024
การลดราคาของซาอุดิอาระเบียและกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นของ OPEC ส่งผลกระทบต่อราคา
นอกจากการลดราคาของซาอุดีอาระเบียแล้ว ข้อมูลของรอยเตอร์สยังแสดงให้เห็นว่ากำลังการผลิตน้ำมันจากองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนธันวาคม
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียส่วนใหญ่ได้รับการชดเชยด้วยการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสมาชิกอื่น ๆ ในกลุ่มผู้ผลิต
ความไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับการลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมส่งผลให้แองโกลาถอนตัวจากการเป็นสมาชิก OPEC+ ในเดือนธันวาคม ทำให้เกิดความสงสัยว่ากลุ่มจะยังคงรักษาราคาน้ำมันไว้ได้มากเพียงใด
การลดกำลังการผลิตของ OPEC+ ในปี 2024 สร้างผลกระทบต่อตลาดไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นไปโดยสมัครใจและมีอัตรากำไรที่น้อยกว่าที่ตลาดกระทิงคาดหวังไว้ การปรับลดดังกล่าวประกอบกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในส่วนอื่น ๆ ของโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่าตลาดในปี 2024 จะตึงตัวน้อยลงกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก
การปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบครั้งนี้ถือเป็นสัปดาห์แรกของปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลว่าอุปทานในตะวันออกกลางจะหยุดชะงักขณะที่สงครามอิสราเอล-ฮามาสยังคงดำเนินต่อไป แต่การสนับสนุนดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีจำกัด เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นผลกระทบจากความขัดแย้งเพียงเล็กน้อยต่ออุปทานทั่วโลก
การขาดทุนในวันจันทร์ยังลบกำไรของราคาใด ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลับมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบหกเดือน
ตลาดน้ำมันก็ปรับตัวลดลง ก่อนจะมีการเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยมี ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่นวันพฤหัสบดีและคาดว่าจะเป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทางของอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อ ของจีน และ ดุลการค้า ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ คาดว่าจะเสนอสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศที่นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก