โดย Ambar Warrick
Investing.com -- ราคาน้ำมันขยับเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงเช้าของตลาดเอเชียในวันพฤหัสบดี เนื่องจากตลาดรอข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่สำคัญจากจีนเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก แม้ว่าสัญญาณอุปทานที่ตึงตัวจะทำให้ราคาน้ำมันดิบซื้อขายสูงขึ้นในสัปดาห์นี้อยู่ก็ตาม
ขณะนี้จุดสนใจพุ่งไปที่ข้อมูล ดัชนี PMI ภาคการผลิต และ ดัชนี PMI ภาคการบริการ ของจีน ซึ่งจะครบกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยจะถูกติดตามเพื่อดูสถานะของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือนหลังจากปิดประเทศเนื่องจากโควิด
แต่นักวิเคราะห์คาดว่ากิจกรรมจะยังชะลอตัว เนื่องจากประเทศยังคงเผชิญอุปสรรคจากอุปสงค์การส่งออกที่อ่อนแอและการใช้จ่ายในประเทศที่ซบเซา หากรายงานออกมาอ่อนแอ จะมีความความเสี่ยงในระยะสั้นต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากตลาดประเมินการเดิมพันอีกครั้งเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้
จีนคาดว่าจะกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปีนี้ แต่เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจจากประเทศนี้แสดงให้เห็นความต้องการน้ำมันดิบที่จำกัดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 21:17 ET (01:17 GMT) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 77.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.1% เป็น 72.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้งสองปรับตัวลดลงในวันพุธเนื่องจากนักลงทุนขายเพื่อทำกำไรบางส่วนหลังจากการแรลลี่ทั้งสองวันที่ผ่านมา
การฟื้นตัวของ ค่าเงินดอลลาร์ ยังเป็นอุปสรรคต่อราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากการคลายความหวาดกลัวต่อวิกฤตธนาคารทำให้เห็นการฟื้นตัวอีกครั้งในการเดิมพันบางอย่างต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีช่องว่างเพียงพอที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ถึงกระนั้น สัญญาณของอุปทานที่ตึงตัวทำให้เห็นว่าน้ำมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการหยุดชะงักในการขนส่งน้ำมันของเคิร์ดได้ลดกำลังการผลิตลงประมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) หรือ 0.5% ของอุปทานทั่วโลกต่อวัน
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า สินค้าคงคลังน้ำมันดิบสหรัฐฯ หดตัวลงอย่างมากในสัปดาห์จนถึงวันที่ 24 มีนาคม สินค้าคงเหลือลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการในผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังเพิ่มขึ้นท่ามกลางบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ความต้องการกลั่นยังคงอ่อนแอ
รัสเซียยังลดการผลิตลงประมาณ 300,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงสามสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม โดยน้อยกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันที่เครมลินตั้งเป้าไว้ นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าตัวเลขไดเบ่งชี้ถึงอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัวขึ้น
แต่ราคาน้ำมันยังคงขาดทุนอย่างหนักในปีนี้ ท่ามกลางความวิตกว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบอย่างรุนแรง ซึ่งชดเชยการฟื้นตัวของจีน ถึงกระนั้นเทรดเดอร์ขาซื้อก็กำลังรอมาตรการที่มีเสถียรภาพมากขึ้นโดยองค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันซึ่งจะประชุมกันในสัปดาห์หน้า