เมื่อวันศุกร์ Seaport Global Securities ได้เคลื่อนไหวในเชิงบวกของ Sonic Automotive (นิวยอร์ก:SAH) โดยอัปเกรดหุ้นของบริษัทจาก ถือหุ้นไว้ เป็น ซื้อ และตั้งราคาเป้าหมายที่ 74.00 ดอลลาร์ การอัปเกรดเกิดขึ้นท่ามกลางการวิเคราะห์ที่กว้างขึ้นของภาคธุรกิจค้าปลีกรถยนต์แฟรนไชส์ ซึ่ง Seaport เชื่อว่ามีมูลค่าต่ําเกินไปแม้จะผ่านไปหนึ่งปีแล้วที่มีประสิทธิภาพของหุ้นที่แข็งแกร่ง
ตามที่นักวิเคราะห์ของ Seaport ผู้ค้าปลีกรถยนต์แฟรนไชส์มีการซื้อขายที่ประมาณ 10 เท่าของประมาณการกําไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทในปี 2025 การประเมินมูลค่านี้น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของทวีคูณของตลาด ซึ่งปิดที่ 46.3% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์แนะนําว่าตัวคูณสัมพัทธ์ที่ปรับให้เป็นมาตรฐานจะบ่งบอกถึงอัตราส่วนราคาต่อกําไร (P/E) ที่ 12.0x สําหรับภาคส่วนนี้ โดยให้เหตุผลว่าความสามารถในการทํากําไรและโปรไฟล์กระแสเงินสดของบริษัทเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการประเมินมูลค่าที่สูงขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ให้เห็นถึงการปรับปรุงอัตรากําไรสุทธิของกลุ่มจากระดับก่อนเกิดโรคระบาดในปี 2017 จนถึงช่วงหลังการระบาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025 พวกเขากล่าวว่าการปรับปรุงนี้สนับสนุนข้อโต้แย้งสําหรับการประเมินมูลค่าที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากขึ้น
จากการวิเคราะห์นี้ Seaport Global ยังได้เพิ่มเป้าหมายราคาสําหรับผู้เล่น นิวยอร์ก ใน retai นิวยอร์ก รถยนต์ รวมถึง AutoNation (NYSE:AN), Group 1 Automotive (NYSE:GPI), Lithia Motors (NYSE:LAD) และ Penske Automotive Group (NYSE:PAG) โดยใช้ตัวคูณ P/E 12x เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินมูลค่า และตัวคูณ 13x สําหรับ Lithia Motors โดยเฉพาะ
ท่าทีขาขึ้นของ Sonic Automotive ถูกลดทอนลงจากมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นใน Asbury A ถือหุ้นไว้ ve Group (NYSE:ABG) ซึ่ง Seaport ปรับลดระดับลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการคงสัดส่วนการลงทุน การปรับลดอันดับดังกล่าวเกิดจากอุปสรรค EPS ที่ไม่ใช่เงินสดที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการเติบโตของ TCA ซึ่งบริษัทเชื่อว่ายังไม่สะท้อนให้เห็นอย่างเพียงพอในการประมาณการที่เป็นเอกฉันท์ แม้จะมีศักยภาพในกรณีขาขึ้นสําหรับหุ้น ABG แต่ Seaport คาดการณ์ว่าพวกเขาอาจทําผลงานได้ต่ํากว่าคู่แข่ง
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Sonic Auto รายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามที่หลากหลาย โดยมีกําไรขั้นต้นและค่า EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วเป็นประวัติการณ์ในกลุ่ม EchoPark แม้ว่า EPS ที่ปรับปรุงแล้วจะลดลง 38% เมื่อเทียบเป็นรายปี ผลการดําเนินงานทางธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทแตกต่างกันไป โดยมีความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นโดยคําแนะนํากําไรขั้นต้นต่อหน่วย (GPU) ของปีงบประมาณ 2025 เริ่มต้นปี 2025 อย่างไรก็ตาม การมองโลกในแง่ดีในธุรกิจบริการของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากฐานช่างเทคนิคที่ขยายตัวและงานรับประกันของผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม (OEM) อย่างต่อเนื่อง
Needham ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ทางการเงินได้เพิ่มเป้าหมายซื้อหุ้นสําหรับ Sonic Auto จาก 73 ดอลลาร์เป็น 74 ดอลลาร์ โดยคงอันดับการซื้อไว้ การปรับนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในผลการดําเนินงานล่าสุดของ Sonic Auto โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตและผลกําไรที่ดีขึ้นในกลุ่มรถยนต์มือสอง EchoPark เป้าหมายราคาใหม่ขึ้นอยู่กับมูลค่าองค์กรที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์ โดย 5.5 พันล้านดอลลาร์มาจากตัวแทนจําหน่ายแฟรนไชส์ของ Sonic Auto และ 1 พันล้านดอลลาร์สําหรับกลุ่ม EchoPark
แม้จะมีการหยุดชะงักในการดําเนินงานและความท้าทายกับอัตรากําไรของยานพาหนะใหม่ แต่ Sonic Auto ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม EchoPark และ Powersports บริษัทยังประกาศเพิ่มเงินปันผลเป็นเงินสดรายไตรมาส 17% เป็น 0.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้เน้นย้ําถึงความยืดหยุ่นของ นิวยอร์ก ic Auto ในการรับมือกับความผันผวนของตลาดและการมุ่งเน้นไปที่การเติบโตในระยะยาว
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
การอัปเกรดล่าสุดของ Sonic Automotive (NYSE:SAH) โดย Seaport Global Securities สอดคล้องกับตัวชี้วัดและข้อมูลเชิงลึกที่สําคัญหลายประการจาก InvestingPro อัตราส่วน P/E ของบริษัทที่ 10.94 ซึ่งใกล้เคียงกับการประเมินมูลค่าภาคส่วนที่กล่าวถึงในบทความ สนับสนุนมุมมองของ Seaport ที่ว่าหุ้นอาจมีมูลค่าต่ําเกินไป สิ่งนี้ได้รับการตอกย้ําเพิ่มเติมจากผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งของ SAH โดยมีผลตอบแทนราคา 16.45% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา และผลตอบแทน 23.67% ในปีที่ผ่านมา
InvestingPro Tips เน้นย้ําว่า Sonic Automotive ได้จ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 15 ปีติดต่อกัน และได้เพิ่มเงินปันผลเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัทและความมุ่งมั่นต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น ซึ่งอาจดึงดูดนักลงทุนที่มองหาทั้งการเติบโตและรายได้ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปัจจุบันอยู่ที่ 2.22% โดยมีการเติบโตของเงินปันผลที่โดดเด่นที่ 20.69% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2024
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรตระหนักว่า SAH ดําเนินงานด้วยภาระหนี้สินจํานวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความยืดหยุ่นทางการเงินในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังประสบปัญหาอัตรากําไรขั้นต้นที่อ่อนแอ ซึ่งอยู่ที่ 15.52% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ปัจจัยเหล่านี้อาจอธิบายได้ว่าเหตุใดหุ้นจึงซื้อขายในราคาลดแม้จะมีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่ง
สําหรับผู้ที่สนใจในการวิเคราะห์เชิงลึก InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 10 ข้อสําหรับ Sonic Automotive ซึ่งให้มุมมองที่ครอบคลุมยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายของบริษัท
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน