เมื่อวันศุกร์ Kepler Cheuvreux ได้เปลี่ยนมุมมองเชิงบวกสําหรับผู้ผลิตตลับลูกปืน SKF AB (SKFB:SS) (OTC: SKFRY) โดยอัปเกรดหุ้นจาก Reduce เป็น ซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 240.00 SEK240.00 เพิ่มขึ้นจาก 200.00 SEK การวิเคราะห์ของบริษัทระบุว่าแม้ว่า SKF จะมีประสิทธิภาพต่ํากว่าตลาดหุ้น แต่ก็มีหลายปัจจัยที่อาจนําไปสู่ตําแหน่งที่เอื้ออํานวยมากขึ้นในอีก 24 เดือนข้างหน้า
จากข้อมูลของ Kepler Cheuvreux SKF ยังคงรักษาอัตรากําไรที่มั่นคงแม้จะเผชิญกับตลาดที่อ่อนแอตลอดปี 2024 บริษัทคาดการณ์ว่าเมื่อตลาดถึงจุดต่ําสุดของการเติบโตในระยะใกล้ ปริมาณและอัตรากําไรของ SKF คาดว่าจะดีขึ้นในปี 2025 นอกจากนี้ แผนการแยกธุรกิจยานยนต์ของ SKF ในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมูลค่าที่รับรู้ของกลุ่มอุตสาหกรรมของ SKF
รายงานจาก Kepler Cheuvreux ยังเน้นย้ําถึงการสร้างกระแสเงินสดของ SKF ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สม่ําเสมอสําหรับบริษัท แม้จะมีสภาวะตลาดที่ท้าทายและการลงทุนจํานวนมาก แต่ SKF ก็ประสบความสําเร็จในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล การวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าหลังจากการแยกตัวออกในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ทั้งหน่วยงานยานยนต์และอุตสาหกรรมสามารถมีความสามารถในการเริ่มการซื้อหุ้นคืนได้สูงถึง 10% ต่อปี
การประเมินของ Kepler Cheuvreux เน้นย้ําว่าการประเมินมูลค่าของ SKF อยู่ในระดับต่ําสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในแง่สัมบูรณ์และเมื่อเทียบกับภาคส่วน การประเมินมูลค่าต่ํานี้รวมกับการบริหารทางการเงินที่มั่นคงของบริษัทและการปรับโครงสร้างองค์กรที่คาดการณ์ไว้
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ SKF แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการเรียกผลประกอบการไตรมาสที่สามสําหรับปี 2024 แม้จะมีสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายก็ตาม บริษัทรายงานการเติบโตแบบออร์แกนิกติดลบ 4% แต่รักษาอัตรากําไรจากการดําเนินงานที่ปรับปรุงแล้วไว้เกือบ 12% กระแสเงินสดของ SKF ยังคงแข็งแกร่งที่ 3.6 พันล้านโครนสวีเดน และบริษัทสามารถลดหนี้สินสุทธิลงเหลือ 9.3 พันล้านโครนสวีเดน ในด้านกลยุทธ์ SKF ได้ประกาศการเคลื่อนไหวในการจัดการพอร์ตโฟลิโอ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ John Sample Group และการเลิกกิจการด้านการบินและอวกาศฮันโนเวอร์
นอกจากนี้ SKF ยังเปิดเผยแผนการที่จะแยกธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม โดยบริษัทยานยนต์จะจดทะเบียนใน แนสแด็ก สต็อกโฮล์ม ภายในปี 2026 วันตลาดทุนจะจัดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2025 เพื่อหารือเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงินและกระบวนการเปลี่ยนผ่าน อย่างไรก็ตาม SKF คาดการณ์ว่ายอดขายออร์แกนิกจะลดลงในระดับเลขหลักเดียวในไตรมาสที่ 4 และทั้งปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่อ่อนตัวและผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคยานยนต์และการกระจายสินค้าในอุตสาหกรรมในจีน
แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่ผู้นําของ SKF ก็เน้นย้ําถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการปรับกลยุทธ์ ประสิทธิภาพด้านต้นทุน นวัตกรรม และการเพิ่มประสิทธิภาพพอร์ตโฟลิโอ การเข้าซื้อกิจการของ John Sample Group ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการหล่อลื่นของ SKF ในออสเตรเลียและอินโดนีเซีย ในขณะที่การเลิกกิจการด้านการบินและอวกาศที่ไม่ใช่หลักในสหรัฐอเมริกาในราคา 2.3 พันล้านโครนสวีเดนช่วยให้การดําเนินงานมีความคล่องตัว การพัฒนาเหล่านี้บ่งชี้ว่า SKF กําลังวางตําแหน่งตัวเองเพื่อใช้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในอนาคต
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
นอกเหนือจากมุมมองในแง่ดีของ Kepler Cheuvreux เกี่ยวกับ SKF AB ข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro ยังให้บริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของบริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ SKF อยู่ที่ 8.44 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกําไร 16.49 ซึ่งบ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่สมเหตุสมผลซึ่งสอดคล้องกับการประเมินของ Kepler Cheuvreux ในระดับที่ต่ําในอดีต
เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําถึงรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งของ SKF โดยตั้งข้อสังเกตว่าสินทรัพย์สภาพคล่องของบริษัทเกินภาระผูกพันระยะสั้นและดําเนินงานด้วยหนี้สินในระดับปานกลาง สิ่งนี้สอดคล้องกับข้อสังเกตเชิงบวกของ Kepler Cheuvreux เกี่ยวกับการสร้างกระแสเงินสดและความแข็งแกร่งของงบดุลของ SKF นอกจากนี้ SKF ยังรักษาการจ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 30 ปีติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นแม้ในสภาวะตลาดที่ท้าทาย
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลของบริษัทที่ 3.24% และการเติบโตของเงินปันผลที่ 5.22% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาสนับสนุนข้อเสนอการลงทุนที่น่าสนใจ ในขณะที่รายได้ลดลงเล็กน้อย 6.08% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา SKF ยังคงรักษาอัตรากําไรขั้นต้นที่ดีที่ 26% และอัตรากําไรจากการดําเนินงานที่ 10.05% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่สอดคล้องกับข้อสังเกตของ Kepler Cheuvreux เกี่ยวกับอัตรากําไรที่มั่นคง
เป็นที่น่าสังเกตว่า InvestingPro เสนอเคล็ดลับเพิ่มเติม 7 ข้อสําหรับ SKF ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของบริษัท ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้อาจมีคุณค่าอย่างยิ่ง เนื่องจากตลาดคาดการณ์การแยกกิจการตามแผนของ SKF และการปรับปรุงปริมาณและอัตรากําไรขั้นต้นที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน